[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

ชีวจิต

                                                                                                  ของดีในผักผลไม้
            มีผู้บัญญัติศัพท์ “มังสวิรัติ” หรือเป็นภาษาอังกฤษว่า “Vegetarian” ซึ่งแปลว่า ผู้มีพลังและมีความสามารถสูง ถ้ากินอาหารประเภทนี้จะมีพลังสูงมีความสามารถสูง

            ความต้องการของมนุษย์ในเรื่องอาหาร คือทำให้เราอยู่ได้อย่างปกติ อาหารเป็นสิ่งที่จะบำรุงรักษาให้สุขภาพดี อารมณ์ดี ไม่หม่นหมอง แววตาไม่สดใส หรือพูดไม่เข้าหูคนก็เนื่องมาจากอาหารทั้งนั้น การไปวัดทำบุญ นั่งสมาธิ เพื่อให้จิตใจดี สิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบ แต่อาหารจะเป็นสิ่งถาวร ที่ทำให้คนเราทำในสิ่งที่เราปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นอ้วน ผอม ตาใส ตาหมอง

            อาหารที่กินเข้าไปจะไปสร้างอวัยวะใหม่ หัวใจไม่ใช่ดวงเดียวกับที่เกิดมาในตอนแรก เป็นหัวใจดวงใหม่ เป็นอวัยวะใหม่ที่จะดีหรือเลวก็ขึ้นอยู่กับการใช้วัตถุดิบ เปรียบเสมือนการสร้างบ้าน หรือทำรั้ว ถ้าใช้ซีเมนต์ไม่ดี หรือการผสมซีเมนต์ ทราย น้ำ ที่เป็นส่วนประกอบทำให้เป็นบล็อกที่แข็งแรง ไม่ถูกส่วนซีเมนต์น้อยไป หรือทรายน้อยเกินไป (ซึ่งเป็นองค์ประกอบไม่ดี) อิฐบล็อกที่ได้ก็จะไม่แข็งแรง โดยอะไรชนก็พัง ไม่สามารถต้านการถูกกระทบ เซลล์ในร่างกายคนก็เปรียบเสมือนอิฐบล็อกเป็นแต่ละอวัยวะของคนเรา ถ้าหากส่วนผสมไม่ดี คือ อาหารที่ป้อนเข้าปากไม่ดีแล้ว ก็จะไม่สามารถมีสุขภาพที่แข็งแรง

            เราจะต้องศึกษาความต้องการตัวเอง ต้องสังเกตตัวเอง เช่น บางคนกินสับปะรดแล้วแพ้ หรือกินฝรั่งแล้วไม่ย่อย ฉะนั้นทุกคนจะต้องหาสูตรอาหารของตนเอง ต้องศึกษาว่าตนเหมาะสมกับอะไร

            แหล่งที่มาของอาหาร (โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต วิตามิน ไขมัน เกลือแร่ น้ำ กากใย) ที่มีอยู่ในผักผลไม้ทั้งหมดรวมอยู่ในผักผลไม้ โปรตีนในผักมีมากมาย โปรตีนมาจากเนื้อสัตว์ก็เป็นโปรตีนที่ดี ซึ่งร่างกายจะได้ใช้ก็ต่อเมื่อเข้าไปสลายอยู่ในกระเพาะ ที่เหลือก็จะขับออก หรือในเชิงเศรษฐศาสตร์ หากกินไก่เข้าไป 60 บาทก็จะได้แค่ 10 บาทเท่านั้น

            ในผู้สูงอายุ ประสิทธิภาพของลำไส้จะเปลี่ยนไปจะมีการดูดซึมไม่เท่ากับเด็ก เพราะฉะนั้นการกินตามตำราที่ได้มีการทดลองแล้ว (แต่ไม่ได้ทดลองในคนสูงอายุ) จึงไม่ใช่ตัวเลขที่เหมาะสม คนสูงอายุควรกินให้มากขึ้นกว่าเดิมในเชิงที่เป็นสารอาหาร เนื่องจากแหล่งที่มาของคาร์โบไฮเดรต ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยว เส้นหมี่ ขนมจีน ถือว่าเป็นแป้ง และเป็นคาร์โบไฮเดรต ซึ่งจะใช้เวลาในการย่อยสลาย ส่วนที่เป็นไขมันจะมีพิษมากในเนื้อสัตว์ เนื่องจากการผลิตเนื้อสัตว์ ในปัจจุบันนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน การเลี้ยงหมู ไก่ ปลา กุ้ง จะเลี้ยงโดยเอาเศษอาหารมาทำให้ไก่กิน หมูก็จะกินของที่เหลือ หรือเศษผักที่มีแต่สารฆ่าแมลง ปลาก็กินขี้ของไก่อีกที

            เพราะฉะนั้น มนุษย์ก็กินเนื้อสัตว์ต่ออีกที พิษทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสารหนู สารฆ่าแมลง ร่างกายจะเก็บสะสมไว้ในไขมัน คนที่อ้วนมาก ๆ พิษจะอยู่ทีไขมันมาก เมื่อใดที่ไม่ได้กินอาหารเพียงพอ ก็จะละลายไขมันออกมาให้พลังงาน

            ในผักผลไม้มีวิตามิน A ในผักบุ้งมีวิตามินเอสูง กินผักบุ้งตาจะหวาน วิตามิน A มีบทบาทสูง แต่การกินวิตามิน A โดยไม่ปรึกษาผู้รู้จะเป็นอันตรายที่สุด วิตามิน A ไม่ควรกินตามลำพัง (กินจากขวด) แต่หากกินจากผักผลไม้จะไม่เป็นอันตราย ซึ่งวิตามินเอมาจากสารเบต้า-แคโรทีน ซึ่งมีในมะละกอ แครอท น้ำสีส้ม จะปลอดภัยกว่าไปซื้อเป็นเม็ดมารับประทานเยื่อบุก็ดีขึ้น ผู้ที่เป็นไซนัส เป็นหวัด รักษาด้วยวิตามินซีเท่าไรก็ไม่หาย เป็นหวัดบ่อย ๆ ควรลองเปลี่ยนมาใช้วิตามินเอแทน เพราะระบบทางเดินหายใจซึ่งในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขบอกว่า โรคระบบทางเดินหายใจอักเสบเป็นมากในไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือ ซึ่งมีสถิติบอกไว้ว่า วิตามินเอสามารถช่วยได้

            ในวิตามินบีหนึ่ง บี 6 บี 12 เกี่ยวข้องกับการบำรุงประสาท วิตามินซี แก้โรคเลือดออกตามไรฟันเป็นสารที่ละลายได้ อยู่ในร่างกายได้ 5 ชั่วโมง เป็นแอนดิออกซิแดนท์ วิตามิน เป็นสารพัดประโยชน์ในอันที่จะแก้ไข แม้แต่ระบบประสาท เป็นหวัด มีไข้สูง เจ็บคอ หากกินวิตามินซี 1 เม็ด เท่ากับ 500 มก. กิน 2 เม็ด รุ่งขึ้นก็หาย (หรือบางคนอาจใช้สมุนไพร) วิตามินซีกินแล้วขับออกทางปัสสาวะ ไม่เป็นอันตราย ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย

            วิตามินอี (เป็นยาซึ่งผสมกับวิตามินอี เป็นยาสระผม ทาผิว ป้องกัน ทำให้ผิวสวย เนื้อเยื่อเป็นแอนติออกซิเดนท์ ทำหน้าที่เหมือนวิตามินซี เหมือนเบต้าแคโรทีน CE เบต้าแคโรทีน 3 ตัวนี้ที่ทั่วโลกยอมรับว่าป้องกันมะเร็งได้ เพราะเป็นตัวขจัดอนุมูลอิสระ หรือพิษ ผลพวงจากการกินพิษ ซึ่งจะผลิตอนุมูลอิสระขึ้นมาในร่างกายอยู่ตลอดเวลา หรือแม้ปัจจุบันหากอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่ดี ก็จะออกมาตลอดเวลา ก็สามารถที่จะขจัดออกไปได้ วิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน และสามารถช่วยป้องกันอะไรต่าง ๆ ได้มากมาย

            ในคนสูงอายุการดูดซึมไขมันจะด้อยลง ไม่ควรใช้วิตามินอีเป็นหลักในการป้องกันพิษในร่างกาย หรือป้องกันมะเร็ง ควรเลือกใช้วิตามินที่ละลายในน้ำ การกินวิตามินอีกมากไม่เป็นอันตรายเท่าวิตามินเอ วิตามินอีหากกินเข้าไปจะเก็บในร่างกาย

            ทองแดง เป็นสารที่คนใช้นิดเดียว ตามหลักวิชาการกล่าวว่า ทองแดงจะมีอยู่ในเลือดปู เป็นสีน้ำเงินกินแล้วจะช่วยสร้างเส้นเอ็น โดยรวมตัวทางเคมีกับกรดอะมิโน-ไลซีน ไลซีนเป็นชื่อสารอาหารชนิดหนึ่งจัดอยู่ในกลุ่มกรดอะมิโนจากโปรตีน ไลซีนตัวนี้จะไปสร้างเอ็นตามข้อ ถ้าไม่มีทองแดงอยู่ด้วยจะสร้างไม่ได้ เพราะฉะนั้นตามหลักการ หากกินเนื้อสัตว์ ไม่มีแร่ธาตุ วิตามินจากพืชผักผลไม้ ก็จะไม่สามารถเอาประโยชน์จากโปรตีนเหล่านั้นมาสร้างบล็อก มาสร้างอวัยวะใหม่ หรือมาสร้างเส้นประสาทให้ร่างกายได้เลย

            ในผักกาดขาวปลี มีแคลเซียมเพียงพอ มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามีนซี โปแตสเซียม ซึ่งทำให้ระบบกล้ามเนื้อทุกส่วน รวมทั้งสมองทำงานได้ดี ในดอกกะหล่ำจะมีวิตามินซีสูง คะน้าก็มีวิตามินเอสูง ในตำราเก่า ๆ กล่าวถึงการกินโปรตีนวันหนึ่ง 50 กรัม จึงจะได้รับในปริมาณที่เพียงพอ แต่ปัจจุบันนี้ 17 กรัมก็เพียงพอแล้ว ในข้าวกล้องมี 7 หากกินข้าวกล้อง 3 มื้อ ก็ได้รับโปรตีนเพียงพอแล้ว นอกจากนี้ในพืชผักต่าง ๆ ล้วนแต่มีโปรตีน และโปรตีนในพืชผักผลไม้ก็ย่อยง่ายกว่า ในเนื้อที่แน่นกว่าจะแกะออกมาเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ กว่าจะผ่านทะลุลำไส้ได้ก็ลำบากมาก แต่ในผักผลไม้ โมเลกุลจะหลวม ๆ ในปลาก็หลวม ๆ สามารถที่จะเลือกปลาเป็นชนิดของโปรตีนดีกว่าในเนื้อแน่น ๆ ของหมู และเนื้อวัว

            เลือกกินในสิ่งที่ร่างกายรับได้ง่าย ได้ประสิทธิภาพกว่าความอร่อยทางลิ้น (แคลเซียมที่ได้จากการกินนมนำไปใช้ยาก และบางทีอาจทำให้เป็นโรคโลหิตจาง) แต่แคลเซียมที่ได้จากการกินพืชผักนั้น ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี เพราะร่างกายจะมีกลไกมาก ในอาหารจะเป็นแบบหนึ่ง พอเข้าไปในร่างกายผ่านการดูดซึมก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง เมื่อจะเอาไปใช้ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง

 





คลิ๊กดูที่นี่http://www.greensociety.com/


โดย:
งาน: งานห้องสมุด
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: http://www.greensociety.com/

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 0

อ่าน 0 ครั้ง