|
|
เรื่องของช้างก็คือว่า ..... ในสมัยหลัง ๆ ต่อมาเราใช้ช้างในการทำไม้ ชักลากไม้ออกจากป่าส่งเป็นสินค้าออกนำรายได้สู่ประเทศอันเป็นผลทางเศรษฐกิจ เด็กนักเรียนเมื่อห้าสิบ หกสิบปีก่อนจะต้องท่องว่า ''สินค้าออกที่สำคัญ ของไทยมี ข้าว ไม้สัก ยางพารา และแร่ดีบุก'' แต่เด็กสมัยนี้ต้องรู้ว่า สินค้านำเข้าอย่างหนึ่ง ของประเทศก็ คือ ไม้ ในปัจจุบันนี้ ถึงแม้เครื่องจักรกลจะก้าวเข้ามามีบทบาทแทนแต่ช้างก็ยังใช้ในการทำไม้ได้อยู่ดี ทั้งยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องจักรในบางภูมิประเทศ บางจังหวัดมีการจัดงานประเพณีแสดงช้าง อันเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวนำรายได้มาสู่ประเทศ งานประเพณี เช่น บวชนาค แห่กฐิน ขบวนแห่ต่าง ๆ ถ้ามีช้างก็นำช้างมาร่วมด้วย จึงนับได้ว่าช้างนั้นเกี่ยวข้องกับชีวิตของคนไทยในแหลมทองตลอดทุก ยุคทุคสมัย ตอนที่ 1 ช้างซึ่ง ภาษาอังกฤษเรียกว่า elephant นั้นมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกโบราณว่า elephas ซึ่งแปลว่างาช้าง ในบรรดาสัตย์เลี้ยงลูกด้วยนมฝนปัจจุบันนั้น ถือกันว่าช้างเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนใช้เป็นคำเปรียบเทียบว่า ''ใหญ่ยังกะช้าง'' นัยว่าสมัยยุคก่อน ๆ ของโลกเรานั้นเคยมีสัตว์อื่นๆ ที่ใหญ่กว่า ครองแชมป์อยู่แต่ก็ล้มหายตายจาก สูญพันธ์ไปตามกาลเวลา ช้างจึงครองแชมป์โลกรุ่นสัตว์ใหญ่ของสัตว์บกที่เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างเหนียวแน่นตลอดมา ในปัจจุบัน ยังมองไม่เห็นว่า จะมีสัตว์ใดที่จะเสนอตัวเป็นผู้ท้าชิงเพื่อแย่งตำแหน่งไปได้ นักวิชาการด้านกุญชรศาสตร์(ก็ภาษาอังฤกษเขาอยากเรียกว่า elephantologist) บอกไว้ว่า เมื่อหลายล้านปีมาแล้วช้างมีอยู่ด้วยกันถึง 352 ตระกูล แต่ก็สูญพันธุ์ ไปตาม ตามความเปลี่ยนแปลงของโลกจนในปัจจุบันเหลืออยู่ 2 พันธุ์ เท่านั้น ที่ว่ามัเหลืออยู่ 2 พันธุ์ นั้นจริงและเชื่อ ส่วนที่ว่าเดิมมีอยู่ถึง 3 - 400 ตระกูล น่ะ อะไรมันจะมากมายปานนั้นยังกับผักกับหญ้าแต่จะเอาอะไรไปเถียง เรื่องมันตั้งล้าน ๆ ปีมาแล้ว นักวิชาการชะอย่างพูดอย่างไรก็ต้องมีคนฟัง นักวิทยาศาสตร์ที่คำนวณระยะทางระหว่างดวงดาวกับโลกผิดไปเป็นล้าน ๆ ไมล์ เขายังนิยม ยกย่องกันว่าเก่งนี่น่า ช้าง 2 พันธุ์ที่เหลืออยู่ในปัจจบันนั้น คือช้างเอเชีย กับช้างแอฟริกา ช้างเอเชียนั้นชื่อก็บอกไว้ชัดเจนแล้วว่าถิ่นกำเนิดของมันก็ต้องอยู่ในเอเชีย คือ ช้างที่เห็น ๆ กันในบ้านเรานี่แหละ และช้างที่อยู่แถว ๆ พม่า อินเดีย อินโดนีเชีย ก็ใช่ทั้งนั้น ส่วนเจ้าช้างแอฟริกา และชีเรียแชมเบีย แล้วก็อาจจะพูดคลุม ๆ ไปได้เลยว่าอยู่ในภูมิประเทศแถบนั้น เราควรจะได้รู้กันไว้สักหน่อยว่า ช้างเอเชียนั้นรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร และช้างแอฟริกานั้นแตกต่างกันไปอย่างใด เวลาเจอะหน้าเจอตากันกลางป่าจะได้รู้จัก และทักทายกันได้ถูก เชฟหรือสัดส่วนนั้น ฝรั่งบอกไว้ว่าช้างเอเชียมีความสูงเฉลี่ย 7 ฟุต 9 นิ้ว วัดรอบอกเฉลี่ย 11 ฟุต 6 นิ้ว อยากรู้ว่ากี่เมตรกี่เซ็นติเมตรก็ลองคำนวณดู ความเข้าใจยากมันอยู่ตรงนี้ฝรั่งนั้นนิยมใช้หน่วยวัดเป็นฟุตเป็นนิ้วซึ่งเป็นมาตราอังกฤษ ส่วนไทยเรานั้นชินกับมาตราเมตริก วัดเป็นเมตรและเซ็นติเมตร อย่างเช่นฝรั่งบอกว่าคนสูง 5' 9'' คนไทยเราต้องหยุดคำนวณทุกที สิ่งที่แปลกก็คือว่าฝรั่งเขาใช้มาตราเดียวกัน อย่างวัดความสูงและวัดรอบอกช้างเป็นฟุตเป็นนิ้วด้วยกัน แต่พี่ไทยเราทั้ง 2 อย่าง เช่น บอกว่าผู้หญิงสูง 170 ซ.ม. (มาตราเมตริก) สัดส่วน 36 - 23 - 36 นิ้ว (มาตราอังกฤษ) หรือถ้าจะไปซื้อไม้มาใช้สักแผ่นหนึ่ง ก็ต้องบอกว่าหน้ากว้าง 3 นิ้ว หนา 1 นิ้ว แต่ความยาวดันไปนิยมใช้เมตร อย่างเช่น 2.50 เมตร หรือ 3 เมตร เป็นต้น คนละมาตราแท้ ๆ ทีเดียว ถ้าใครไปใช้มาตราเดียวกัน เช่น ไปขอซื้อไม้หนากว้าง 3 นิ้ว หนา 1 นิ้ว ยาว 8 ฟุต ก็ดูออกจะเป็น คนพิลึก ๆ อยู่สักหน่อย ผมไม่ทราบจริง ๆ ว่าจะมีชาติไหนใช้ 2 มาตราวัดของสิ่งเดียวกันอย่างเมืองไทยเราบ้าง ย้อนมาพูดถึงช้างเอเชียกันต่อเทียบอย่างคร่าว ๆ แถมปัดเศษอีกต่างหากมันจะสูงเฉลี่ยราว 2.30 เมตร วัดรอบอกเฉลี่ยไม่ใช่ 36 นิ้วหรอกแต่เป็น 138 นิ้ว น้ำหนักตัวราว 3 - 4 ตัน งายาวเฉลี่ยราว 1.65 เมตร ส่วนช้างแอฟริกานั้นมันจะสูงกว่าราว ๆ 1 เมตร หนักกว่าราว ๆ 3 ตัน เกือบเท่าตัวเชียวแหละ งาก็ยาวกว่าเกือบ ๆ 2 เมตร เวลาเจอกันจริง ๆ กลางป่าจะมัวไปวัดความสูง วัดงา กะประมาณน้ำหนักอยู่มันคงไม่ไหวหรอกดูอย่างอื่นก็แล้วกัน ถ้าดูไกล ๆ จะเห็นว่าช้างแอฟริกานั้นมีหูที่ใหญ่มาก จนมองตรง ๆ จะปิดคอปิดไหล่กางเหมือนพัด ช้างบ้านเรามีหัว 2 ลอน แต่ช้างแอฟริกาหัวมีลอนเดียว ถ้าหัวหลิมละก็ไม่ผิดหรอก ช้างแอฟริกา |
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ |
โดย: งาน: งานห้องสมุด อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: http://www.thaibrown2000.8m.com/elephan1.htm |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |