|
|
เชิญชวนชักธงชาติ หมดหนี้ไอเอ็มเอฟ
จากการที่รัฐบาลได้ประกาศ จะชำระหนี้ ให้กับกองทุนการเงิน ระหว่างประเทศให้หมด ก่อนถึงกำหนดนัดชำระคืน พร้อมกับรณรงค์ ให้คนไทย ติดธงชาติ ประดับไว้เพื่อประกาศถึง ความเป็นอิสระนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาตอกย้ำอีกครั้งว่า เงื่อนไขข้อผูกมัดต่างๆ ที่ได้ทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ รัฐบาลจะยกเลิก ได้ทันที โดยไม่ต้องขอผ่อนผันหรือ ฟังคำสั่งใครอีกแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ค. เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะรณรงค์ให้ติดธงชาติไทยทั่วประเทศในวันที่ 1 ส.ค. เพื่อแสดงให้เห็นถึงการที่ประเทศไทยปลดเปลื้องหนี้สินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟได้หมดก่อนกำหนดการใช้หนี้ ว่าเป็นเรื่องที่ประจวบกันพอดีมากกว่า เพราะเรื่องการติดธงชาติไทยนั้น ได้สั่งการให้แก้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่อง การประดับธงชาติ ตามพระราชบัญญัติธงชาติ ตั้งแต่เดินทางกลับจากการเยือนประเทศฝรั่งเศส การเตรียมการต้องใช้เวลาและบังเอิญมาเสร็จในช่วงนี้พอดี การติดธงชาติไม่มีปัญหาว่า จะประดับถาวรหรือจะเคารพธงชาติตามเวลา เป็นของคู่กันที่ทำได้ บางทีธงชาติอาจจะมีมากกว่าหนึ่งผืน ธงที่อยู่ด้านหน้าอาจจะประดับชักธงขึ้นลงตามเวลาปกติ 08.00 น. และ 18.00 น. เมื่อก่อนนี้ ระเบียบไปจำกัดทำให้ธงชาติไทยไม่ค่อยได้ปลิวว่อน เวลาไปประเทศไหนขอให้สังเกตดู เมื่อเดินลงจากเครื่องบินแล้วเข้าไปในเมือง จะเห็นการประดับธงชาติเต็มไปหมด แต่ของไทยเดินทางเข้ามาในประเทศ 2 วัน แล้วยังไม่เห็นว่าธงชาติไทยสีอะไรย้ำไม่ต้องทำตามคำสั่งใครอีกแล้วพ.ต.ท.ทักษิณยังได้กล่าวถึงการชำระหนี้คืนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ก่อนกำหนดนัดชำระคืน ว่าเป็นการแสดงว่าพันธะของไทยจะหมดไป รัฐบาลจะปฏิบัติในสิ่งที่เหมาะสมกับประเทศตามวิถีทาง ตามที่รัฐบาลคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประเทศเท่านั้น เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้ทำสัญญาไว้ว่า ในเดือนตุลาคมจะต้องขึ้นเป็น 10% แต่วันนี้หากไม่ขึ้นก็ไม่ต้องไปขอผ่อนผันกับใคร เป็นเรื่องของไทย เพราะมีเสรีภาพเต็มที่ ใช้หนี้หมดแล้ว หรือเรื่องการขายหุ้นรัฐวิสาหกิจเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ก็ไม่ต้องแล้ว ไทยจะแปรรูปรัฐวิสาหกิจในลักษณะกระจายหุ้นอย่างไรก็ไม่ใช่เพราะนำมาใช้หนี้ อยากเห็นธงชาติปลิวไสวทั่วประเทศ วันเดียวกัน ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวในงานมอบรางวัลช่างภาพสื่อมวลชนดีเด่นประจำปี 2546 โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า ในวันนี้อยู่ท่ามกลาง สื่อมวลชนและช่างภาพในวงการหนังสือพิมพ์ ต้องการเห็นภาพขององค์กร มูลนิธิ และบริษัทต่างๆประดับธงชาติให้ปลิวไสวไปทั่วประเทศ เพื่อประกาศชัยชนะว่าประเทศไทยได้เป็นไททางเศรษฐกิจแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องชักธงชาติลงหลัง 6 โมงเย็น ให้ติดไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้คนไทยมีจิตสำนึกรักชาติ เนื่องจากในวันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป เป็นวันที่ไทยได้ชำระหนี้ให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นชัยชนะอย่างหนึ่งของประเทศ เป็นความภาคภูมิใจที่มีความหมายลึกซึ้งไปถึงจิตใจด้วย เพลงศึกบางระจันกระหึ่มทีวี ต่อมาเวลา 20.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะออกมาแถลงการณ์ปลดแอกหนี้สินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจนั้น ได้มีการเปิดเพลงไตเติ้ลเพลงศึกบางระจันซึ่งเป็น เพลงปลุกใจให้รักชาติพ.ต.ท.ทักษิณได้แถลงสดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่า ในวันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายให้กับไอเอ็มเอฟ จำนวน 60,000 ล้านบาท ถือเป็นก้อนสุดท้าย หลังจากที่ไทยกู้เงินมาตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจ 2 ก.ค. 2540 จำนวน 510,000 ล้านบาท ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ชำระหนี้งวดสุดท้ายคืนไอเอ็มเอฟ 60,000 กว่าล้านบาท เป็นก้อนสุดท้าย หลังจาก 2 ก.ค. 2540 ทำให้เราต้องลดค่าเงินบาท เราต้องเข้ากระบวนการไอเอ็มเอฟที่ได้อนุมัติเงิน 14,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เบิกใช้จริง 510,000 ล้านบาท รัฐบาลชุดที่แล้วได้ใช้หนี้ 10,000 ล้านบาท และรัฐบาลชุดนี้ได้ใช้หนี้หมดในวันนี้ ซึ่งหมดพันธะกับไอเอ็มเอฟ ลั่นเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟครั้งสุดท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเทศไทยเคยเข้ากระบวนการกู้เงินไอเอ็มเอฟ และใช้คืนหมดเมื่อปี พ.ศ. 2533 แต่กลับมีวิกฤติทางเศรษฐกิจอีกครั้งห่างกัน 7 ปี 2 ก.ค. เป็นวิกฤติที่รุนแรง ซึ่งวิเคราะห์ไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลหรือคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการสะสมของสถานการณ์ ซึ่งครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก วันนี้หลายคนยังไม่หายเจ็บปวด คงจะเป็นบทเรียนทั้งประเทศ ร่วมกันคิดแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เราเป็นเหยื่อทุนนิยม ไม่รู้เท่าทัน รัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อจะวางหลักการพัฒนาการทุกอย่าง เพื่อให้มีความรู้เท่าทัน ติดตามสถานการณ์ได้ทันท่วงที วันนี้กล้าใช้หนี้ก่อน 2 ปี มั่นใจว่าได้ปรับและมีเงินทุนเพียงพอ ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยไปโลด พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามามีการขยายตัวเศรษฐกิจหลายสาขา เช่น ภาคเกษตรกร รายได้เกษตรกรพืชผลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมเติบโต ตัวเลขการส่งออกโตต่อเนื่อง เพราะหาตลาดได้มากขึ้น รายได้รัฐ รวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 9 เดือนของปีนี้ เกินดุล 14,600 ล้านบาท เงินสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น หนี้ลดลง 59.4% ขณะนี้ ชำระหนี้ต่างประเทศ 53 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มีทุนสำรอง 39.9 พันล้านเหรียญ เมื่อบวกเงินสำรองธนาคารที่ต่างประเทศ 15 พันล้านเหรียญ จะเห็นว่าหนี้สินกับเงินฝากประเทศไทยรวมกันพอดีๆ สถานะด้านการเงินของประเทศเข้มแข็งมาก รัฐบาลนี้ขอยืนยันอีกครั้ง ประเทศไทยวันนี้ไม่มีพันธะใด แจงปรับนโยบายเศรษฐกิจพึ่งตนเองพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า รัฐบาลทุ่มเทการทำงาน และไม่ใช่วิสัยที่จะนั่งงอมืองอเท้า ต้องกำหนดชีวิตเราเองตั้งเป้าและต้องทำให้ได้ ปีนี้จะทำให้ดีกว่านี้ พัฒนาเศรษฐกิจลงถึงระดับรากหญ้า จะต้องสร้างงานให้คนไทยมีงานทำ สร้างผู้ประกอบการอิสระ วันนี้เอาทุนกระจายออกไปอย่างทั่วถึง ความสำเร็จของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ อยู่ที่การปรับนโยบายเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน ในลักษณะเป็น 2 แนวทาง คือทางหนึ่งอาศัยเศรษฐกิจในประเทศ แต่เดิมอาศัยการส่งออก ลงทุน และท่องเที่ยว เศรษฐกิจในประเทศจำเป็นต้องลงถึงรากหญ้าต่อไป ความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากคนไทยไม่มีกำลังใจ แต่วันนี้รัฐบาลชี้ทิศทางให้เห็นและสู้ รัฐวิสาหกิจ ราชการต้องทุ่มเท แก้ไขกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การใช้หนี้ไอเอ็มเอฟหมด แล้ว จะทำให้ประเทศหมดพันธกรณีหลายอย่าง อย่างเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มก็ไม่ต้องเพิ่มอีกแล้ว จะมีการแก้ไขกฎหมาย 11 ฉบับ อาทิ กฎหมายทุนรัฐวิสาหกิจที่จะกระจายขายหุ้น เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ตรวจสอบทุกระบบทั้งตลาดทุน และของราชการเอง เพื่อทำให้รายได้เพิ่มต่อเนื่องจะบริหารแบบมืออาชีพ ไม่ได้ขายเพื่อใช้หนี้ ไม่จำเป็นอีกแล้ว แก้กฎหมายล้มละลาย จะแก้ไขเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ ปรับปรุงกฎหมายประกอบธุรกิจคนต่างด้าว กฎหมายที่ดิน อาคารชุด เช่าอสังหาริมทรัพย์ จะปรับปรุงขบวนการให้เป็นธรรม ต่อไปนี้ภารกิจทำต่อเพื่อรักษาให้อยู่อย่างนี้ตลอดไป เปลี่ยนธุรกิจใต้ดินให้ถูกกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า รัฐบาลจะท่องคาถาต่อไป ตั้งแต่ลดรายจ่ายให้ประชาชน เพิ่มรายได้ และขยายโอกาสให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ จะเดินหน้านโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ปฏิรูปที่ดิน ต่อยอดกองทุนหมู่บ้าน เพื่อให้เป็นธนาคารหมู่บ้าน จะปรับปรุงการบริหารผู้ว่าราชการจังหวัดซีอีโอ ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้ ธุรกิจใต้ดินต้องเอามาเป็นธุรกิจตรงไปตรงมา เพื่อให้เสียภาษี ขยายฐานภาษี ต่อไปต้องไม่มีระบบส่วย ไม่มีผู้มีอิทธิพล |
http://www.thairath.co.th/thairath1/2546/page1/aug/01/p1_6.asp |
โดย: งาน: งานห้องสมุด อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: http://www.thairath.co.th/thairath1/2546/page1/aug/01/p1_6.asp |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |