|
|
พัฒนาชีวิตด้วยแนวคิด Balanced Scorecard และ KPIs ณรงค์วิทย์ แสนทอง [email protected] กระแสของเครื่องมือการจัดการสมัยใหม่ที่เรียกว่า Balanced Scorecard และตัวชี้วัดผลงานหลัก (Key Performance Indicators) กำลังมาแรง จึงอยากจะเสนอแนะให้ท่านผู้อ่านฉกฉวยโอกาสของกระแสเข้ามาใช้ประโยชน์ในชีวิตให้มากขึ้น ในความเป็นจริงแล้วไม่เพียงแต่เครื่องมือการจัดการที่กล่าวถึงเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มีคุณประโยชน์และสามารถนำเอามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชีวิตของเราได้ แม้แต่มดหนึ่งตัวที่กำลังขนดินไปทำรังก็สามารถให้แนวคิดในการดำเนินชีวิตกับเราได้ว่า ความพยายามแม้จะเล็กน้อย แต่ถ้าพยายามบ่อยๆ วันหนึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ก็จะมาถึงเอง ต้นไม้ใบหญ้ายังแย่งกันชูใบชูช่อเพื่อรับแสงอาทิตย์ แล้วชีวิตเราไม่คิดจะเติบโตขึ้นไปสูงๆบ้างเลยหรือ ลองมาดูว่าแนวคิดแบบ Balanced Scorecard (BSC) นี้จะนำมาใช้ในการบริหารชีวิตอย่างไร BSC มุ่งเน้นการบริหารองค์กรโดยการสร้างความสมดุลในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ด้านลูกค้า ด้านกระบวนการจัดการภายใน และด้านการพัฒนาบุคลากร BSC เน้นการบริหารความสมดุลระหว่างเป้าหมายระยะสั้น ระยะปานกลางและระยะยาว นอกจากนี้เมื่อกำหนดเป้าหมายแล้ว ก็ต้องสร้างความสมดุลของเป้าหมายโดยการทำผลงานจริงให้เกิดขึ้นเท่ากับหรือมากกว่าเป้าหมายที่ต้องการ สำหรับตัวชี้วัดผลงานหลักหรือตัวชี้วัดความสำเร็จที่สำคัญ (Key Performance Indicators = KPIs) นั้นหมายถึงเครื่องบ่งชี้ย่อยที่จะบอกเราว่าเป้าหมายของ BSC แต่ละด้านนั้นบรรลุหรือไม่ มากน้อยเพียงใด เช่น จะทราบได้อย่างไรว่าเป้าหมายด้านการเงินดีหรือไม่ดี สามารถดูได้จากตัวชี้วัดผลกำไร ตัวชี้วัดต้นทุน ฯลฯ การพัฒนาคุณภาพชีวิตก็เช่นเดียวกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นใน 4 ด้านดังนี้ ด้านการเงิน (Finance Perspective) ด้านสังคม (Social Perspective) ด้านร่างกาย (Physical Perspective) ด้านจิตใจ (Psychology Perspective) ด้านการเงิน (Finance Perspective) มุมมองของ BSC ของชีวิตในด้านนี้เป็นการตอบคำถามที่ว่า “ชีวิตต้องการอะไรจากเงินทอง” ซึ่งอาจจะได้คำตอบไม่ตรงกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายสุดท้ายของชีวิตแต่ละคน (เปรียบเสมือนวิสัยทัศน์ขององค์กร) บางคนต้องการการยอมรับจากสังคม ดังนั้น มุมมองด้านการเงินจึงเป็นเพียงสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิตให้อยู่รอดเท่านั้น สำหรับ KPIs หรือตัวชี้วัดผลความสำเร็จด้านการเงินอาจจะวัดจากตัวชี้วัดดังนี้ จำนวนเงินที่หาได้ในแต่ละช่วงเวลา (เดือนหรือปี)ว่าได้ตามเป้าหรือไม่? จำนวนเงินที่เป็นหนี้ไม่ควรเกิน 20% ของรายได้ จำนวนเงินออมต่อเดือนไม่น้อยกว่า 10% ของรายได้ จำนวนเงินสำหรับ Entertainment (ดูหนังฟังเพลงฯลฯ ) ไม่เกิน 5% ของรายได้ ด้านสังคม (Social Perspective) หมายถึงการบริหารชีวิตให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นสังคมภายในครอบครัว สังคมทำงานหรือสังคมทั่วๆไป เพราะเราไม่ให้ความสำคัญกับด้านนี้แล้ว จะส่งผลกระทบต่อด้านต่างๆมากเช่นกัน สำหรับตัวชี้วัดความสำเร็จของด้านสังคมอาจจะวัดจากตัวชี้วัดดังนี้ จำนวนครั้งที่ช่วยเหลือผู้อื่น จำนวนความขัดแย้งกับคนในสังคม จำนวนครั้งที่เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม จำนวนครั้งที่ทำกิจกรรมร่วมกันกับคนในครอบครัว ฯลฯ ด้านร่างกาย (Physical Perspective) หมายถึงการดูแลบำรุงรักษาร่างกายให้มีความพร้อมหรืออยู่ในสภาพปกติอยู่เสมอ ถึงแม้ร่างกายจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะบ่งบอกว่าคนเราจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน แต่ร่างกายสามารถทำลายความสำเร็จในชีวิตได้ เช่น คนบางคนกำลังมีชื่อเสียงมีเงินทอง แต่ถ้าร่างกายย่ำแย่แล้ว สิ่งอื่นๆก็จะค่อยจางหายไปด้วย สำหรับตัวชี้วัดความสำเร็จทางด้านร่างกายมีดังนี้ จำนวนครั้งในการเจ็บป่วยต่อปี จำนวนครั้งที่ต้องต้องไปโรงพยาบาลต่อปี จำนวนวันที่ต้องหยุดพักรักษาตัวต่อปี จำนวนครั้งในการออกกำลังกายต่อเดือน ฯลฯ ด้านจิตใจ (Psychology Perspective) หมายถึงการบริหารสมองและอารมณ์ (IQ & EQ) เป็นการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาให้สมองถูกดึงออกมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้ดีด้วย คนหลายคนละเลยในการดูแลชีวิตในด้านนี้ หลายคนขาดการพัฒนาศักยภาพของสมอง นับวันมีแต่เสื่อมถอยลงๆเรื่อยๆ เท่านั้นยังไม่พอ การควบคุมอารมณ์กลับผกผันตรงกันข้ามคือ “สติแตก” มากขึ้น เราจะเห็นว่าคนหลายคนในบางช่วงของวัย ประสบความสำเร็จในหน้าที่การเงินสูงมาก แต่เมื่อวันหนึ่งสมองเสื่อมลง อารมณ์บูดมากขึ้น ความชื่นชมในอดีตก็ค่อยๆจางหายไปเช่นกัน สำหรับตัวชี้วัดผลความสำเร็จในด้านจิตใจมีดังนี้ จำนวนครั้งที่ควบคุมอารมณ์ได้ จำนวนครั้งที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ % ของเวลาต่อสัปดาห์ที่ใช้สำหรับการคิดสร้างสรรค์ (พัฒนาสมอง) จำนวนความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นต่อเดือนหรือต่อปี ฯลฯ สรุป การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนเราไม่แตกต่างอะไรไปจากการพัฒนาองค์กร เพราะชีวิตต้องมีวิสัยทัศน์ มีเป้าหมาย (Vision) ต้องกำหนดกลยุทธ์ (Strategy) ต้องบริหารชีวิตอย่างเป็นระบบ ชีวิตต้องทำการเปรียบเทียบ (Benchmarking) กับคนที่เป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จ (Best Practice) สุดท้ายนี้ อยากฝากคนทำงานและผู้บริหารองค์กรว่า ถ้าจิ๊กซอส่วนเล็กๆขององค์กร (ชีวิตแต่ละคน) ยังขาดระบบในการบริหารตัวเองแล้ว เมื่อนำไปต่อเป็นภาพใหญ่ระดับองค์กรแล้ว โอกาสที่ภาพจิ๊กซอในระดับองค์กรจะประสบความสำเร็จนั้นคงมีน้อยมาก จึงอยากจะให้ทุกคนและทุกองค์กรมุ่งเน้นการพัฒนาคนตั้งแต่ระดับรากหญ้าก่อน เช่น ถ้าทุกคนนำ BSC และ KPIs ไปใช้ในชีวิตแล้ว คงไม่ยากที่จะตอบว่าการใช้ BSC และ KPIs ในองค์กรเป็นเรื่องที่ง่ายมาก |
คลิ๊กที่นี่เพื่อไปเวบของ บริษัท เอช อาร์ เซ็นเตอร์ |
โดย: งาน: งานนโยบายและแผน อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: โดยบริษัท เอช อาร์ เซ็นเตอร์ จำกัด |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |