[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

เทวดาหรือทูตสวรรค์

เทวดามีอยู่ ข้อความจริงที่ต้องเชื่อ

     การมีอยู่ของตัวตนที่เป็นจิตและปราศจากร่าง  ซึ่งพระคัมภีร์เรียกตามปกติว่าเทวดา หรือทูตสวรรค์ เป็นข้อความจริงที่ต้องเชื่อ ประจักษ์พยานในพระคัมภีร์ชัดเจนพอๆ กับความเป็นเอกฉันท์ในธรรมประเพณี

เทวดาคือใคร?

นักบุญออกัสตินพูดถึงเทวดาว่า ''เทวดา'' เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงหน้าที่ที่ปฏิบัติอยู่ มิใช่ลักษณะโดยธรรมชาติ ถ้าถามว่าลักษณะโดยธรรมชาติอันนี้เรียกว่าอะไร คำตอบก็คือ จิต ถ้าถามถึงหน้าที่ที่ปฏิบัติอยู่หรือ คำตอบก็คือทูตสวรรค์ จากสิ่งที่เป็นอยู่ก็คือจิต  จากสิ่งที่ทำอยู่ก็คือทูตสวรรค์'' จากการดำรงอยู่ทั้งหมด เทวดาคือผู้รับใช้และผู้ถือสารของพ ระเจ้า เพราะเทวดาเหล่านี้เฝ้าชม ''พระพักตร์พระบิดาของเรา ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ตลอดเวลา'' (มธ.18:10) เขาเป็น ''ผู้กระทำตามพระวจนะของพระเจ้า และเฝ้าฟังเสียงพระวจนะของพระองค์''   (สดด.103:20)
 

ในฐานะสิ่งสร้างซึ่งเป็นจิตล้วน ทูตสวรรค์เหล่านี้มีทั้งภูมิปัญญาและความตั้งใจจริง พวกเขาเป็นสิ่งสร้างที่มีลักษณะเป็นบุค คลและอมตะ    มีคุณสมบัติสมบูรณ์พร้อมสูงเกินสิ่งสร้างทั้งหลายที่มองเห็นด้วยตา ประกายกล้าแห่งความรุ่งโรจน์ของพวกเขา เป็นประจักษ์พยานในเรื่องนี้อยู่แล้ว (เทียบ พระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 12 DS 3891 ลก.20:36 ดนล.10:9-12) 
 

พระคริสต์ ''พรั่งพร้อมด้วยนิกรเทวดาทั้งหลายของพระองค์''
 

พระคริสต์คือศูนย์กลางแห่งโลกเทวดา เป็นเทวดาของพระองค์เอง ''เมื่อบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์ พร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ทั้งหลาย'' (มธ.25:31) เทวดาเหล่านี้เป็นของพระองค์ เพราะสร้างมา โดยพระองค์และเพื่อพระองค์ ''เพราะว่าในพระองค์ สรรพสิ่งได้ถูกสร้างขึ้น ทั้งในท้องฟ้าและบนแผ่นดิน   ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้   ไม่ว่าจะเป็นเทวบัลลังก์ หรือเป็ นเทพอาณาจักรหรือเป็นเทพผู้ครองหรือศักดิเทพ สรรพสิ่งทั้งสิ้นสร้างขึ้นโดยพระองค์และเพื่อพระองค์'' (คส.1:16) เทวดาเหล่านี้เป็นของพระองค์หนักยิ่งขึ้น เพราะพระองค์โปรดให้พวกเขาเป็นทูตผู้สื่อแผนการแห่งความรอดของพระองค์ ''ทูตสวรรค์ทั้งหลายเป็นเพียงจิตที่มีหน้าที่รับใช้พระเจ้า   พระองค์ทรงส่งมารับใช้ผู้ที่จะต้องได้รับความรอดพ้นมิใช่หรือ?'' (ฮบ.1:14)
 

เทวดาเหล่านี้อยู่ที่นั่นแล้วตั้งแต่พระเจ้าทรงสร้างโลก    และตลอดประวัติศาสตร์แห่งความรอด โดยเป็นผู้ประกาศความรอดนั้นจากไกลบ้างใกล้บ้าง  และคอยรับใช้แผนการของพระเจ้าให้สำเร็จลุล่วงไป เขาเป็นผู้ปิดสวรรค์บนแผ่นดิน เป็นผู้คุ้มครองโลท เป็นผู้ช่วยนางฮาการ์และบุตรของเธอให้รอด เป็นผู้ยึดมือของอับราฮัมไว้ พระบัญญัติก็ได้รับการสื่อออกไปโดยอาศัยบริการจากเทวดาเหล่านี้ พวกเขาเป็นผู้นำทางให้แก่ประชากรของพระเจ้า เป็นผู้เกริ่นประกาศว่าจะมีการเกิด และกระแสเรียก เขาเป็นผู้ให้ความช่วยเ หลือแก่บรรดาประกาศก นี่เป็นเพียงตัวอย่างไม่กี่ราย (เทียบ โยบ.38:7) สุดท้าย เทวดาคาเบรียลเป็นผู้แจ้งล่วงหน้าถึงการเกิดของ ''ผู้ล่วงหน้ามาก่อน (ยอห์น บัปติสตา)'' และการประสูติขององค์พระเยซูเจ้า (เทียบ ลก.1:11,26) 
 

จากการเสด็จลงมารับเอากายเป็นมนุษย์ ไปจนกระทั่งวันเสด็จสู่สวรรค์ ชีวิตของพระวจนาตถ์ผู้มาบังเกิดเป็นมนุษย์ แวดล้อม อยู่ด้วยการนมัสการบูชา และการรับใช้ของเหล่าเทวดา เมื่อพระเจ้าทรงนำพระบุตรองค์หัวปีนั้นเข้ามาในโลกก็ตรัสว่า ''ให้ทูตสวรรค์ทั้งหลายของพระเจ้ากราบลงนมัสการพระองค์เถิด'' (ฮบ.1:6)     เสียงเพลงสรรเสริญสดุดีของเหล่าเทวดาเมื่อพระคริสต์ทรงบังเกิดนั้น ก้องกังวานอยู่มิหยุดหย่อนในบทสรรเสริญของพระศาสนจักร ''พระสิริจงมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด'' (ลก.2:14) เทวดาเหล่านี้เ ป็นผู้คุ้มครองพระเยซูในวัยเยาว์ รับใช้พระองค์ ณ ที่เปลี่ยว ปลอบประโลมพระองค์ยามเข้าตรีทูตในสวน เหมือนเช่นที่ได้ช่วยอิสราเอลให้พ้นจากศัตรูของเขา (เทียบ มธ.1:20; 2:13,19; 4:11; 26:53 มก.1:13 ลก.22:43 2มคบ.10:29-30; 11:8) เทวดาอีกนั่นแหละที่เป็นผู้ ''นำข่าวดี'' (ลก.2:10) โดยประกาศข่าวดีแห่งการเสด็จมารับเป็นมนุษย์ของพระคริสต์ รวมทั้งการฟื้นคืนชีพของพร ะองค์ (เทียบ ลก.2:8-14 มก.16:5-7) เทวดาเหล่านี้จะยังคงอยู่เมื่อพระคริสต์เสด็จกลับมา ตามที่พวกเขาประกาศ เพื่อรับใช้ในการพิพากษาตัดสินของพระองค์ (เทียบ กจ.1:10-11 มธ.13:41; 24:31 ลก.12:8-9)

เทวดาในชีวิตของพระศาสนจักร
 

ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตทั้งชีวิตของพระศาสนจักรก็ได้รับประโยชน์จากความช่วยเหลืออันลึกล้ำและทรงอำนาจของเทวดาทั้งหลา ย (เทียบ กจ.5:18-20;8:26-29;10:3-8;12:6-11;27:23-25) 

 

ในพิธีกรรม พระศาสนจักรร่วมกับเทวดาเพื่อนมัสการบูชาพระเจ้า ผู้ศักดิ์สิทธิ์เป็นตรีคูณ พระศาสนจักรจะวอนขอความช่วยเหลือจากเทวดาทั้งหลาย ในพิธีปลงศพ บท In Paradisum deducant te angeli... (ขอให้บรรดาเทวดานำท่านไปยังสวรรค์)  หรือใน ''บทเพลงแห่งเครูบิม'' ในพิธีกรรมไบเซนไทน์ พระศาสนจักรจะฉลองความทรงจำเกี่ยวกับเทวดาบางองค์เป็นพิเศษ (เช่ น เทวดามีคาแอล คาเบรียล ราฟาแอล และบรรดาเทวดารักษาตัว)
 

ตั้งแต่การเริ่มต้น จนมรณา ชีวิตมนุษย์แวดล้อมอยู่ด้วยการพิทักษ์รักษา และการวิงวอนแทนของเหล่าเทวดา (เทียบ มธ.18:10 ลก.16:22 สดด.34:7;91:10-13 โยบ.33:23-24 ศคย.1:12 ทบต.12:12) ''สัตบุรุษแต่ละคนมีเทวดาอยู่เคียงข้าง เป็นผู้พิทักษ์และผู้อภิบาลเพื่อนำตัวเขาไปสู่ชีวิต'' (น.บาซิล)   ตั้งแต่บนแผ่นดินนี้แล้วที่ชีวิตคริสตชน -โดยอาศัยความเชื่อ- มีส่วนในสังค มอันบรมสุขของเทวดา และมนุษย์ที่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวอยู่ในพระเจ้า

โดยสรุป
 

เทวดาหรือทูตสวรรค์ คือสิ่งสร้างที่เป็นจิต  ซึ่งสรรเสริญสดุดีพระเจ้าอยู่ตลอดเวลา  และเป็นผู้รับใช้แผนการช่วยให้รอดของพระเจ้า ต่อสิ่งสร้างอื่นๆ ''เทพเทวามีส่วนช่วยในทุกสิ่งซึ่งเป็นสิ่งดีสำหรับเรา'' (น.โทมัส อไควนัส)
 

เทวดาห้อมล้อมพระคริสต์ผู้เป็นเจ้าของพวกเขา เทวดารับใช้พระคริสต์โดยเฉพาะ ในการปฏิบัติพันธกิจของพระองค์ให้สำเร็จ ในการช่วยมนุษย์ให้รอด
 

พระศาสนจักรให้ความเคารพยำเกรงต่อเทวดา ซึ่งช่วยพระศาสนจักรในการจาริกแสวงบุญของพระศาสนจักรบนแผ่นดินนี้ และยังปกป้องคุ้มครองมนุษย์ทุกคนอีกด้วย
 

พระเจ้าทรงปรารถนาให้สิ่งสร้างของพระองค์มีความหลายหลากต่างๆ กัน และมีความดีประจำตน ทรงปรารถนาให้สิ่งสร้างพึ่งพากันและกัน และอยู่ในระเบียบ พระองค์ได้ทรงกำหนดสิ่งสร้างที่เป็นสสารทั้งหลายทั้งปวงให้มีอยู่ เพื่อประโยชน์สุขของมนุษยชาติ มนุษย์และสิ่งสร้างทั้งหมดโดยผ่านทางมนุษย์ ได้รับการกำหนดขึ้นมาเพื่อพระสิริมงคลของพระเจ้า
 

เคารพบทบัญญัติซึ่งจารึกอยู่ในสิ่งสร้าง และความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งมาจากธรรมชาติของสรรพสิ่ง นี่คือหลักแห่งปรีชา ญาณ และรากฐานแห่งจริยธรรม





ดูรายละเอียดเพิ่มเติม


โดย:
งาน: งานอภิบาล
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: คำสอนพระศาสนจักรเล่ม 1 ( ข้อ 328- 336 , 350 -354 )

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 0

อ่าน 0 ครั้ง