[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

ร่วมอนุรักษ์โลมาในอ่าวไทย

ดร.โรเบิร์ต มาร์เธอร์ ผู้จัดการอาวุโส WWF ร่วมลงนามอนุรักษ์โลมาในอ่าวไทยตอนในกับ นายสารัชถ์ รัตนวะดี กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท กัลฟ์ อิเลคตริก จำกัด (มหาชน) โดยมี นายสุวัช สิงห์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นสักขีพยานกิติมศักดิ์พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจากสี่จังหวัดพื้นที่ชายฝั่งเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา
WWF ประเทศไทย และ บริษัท กัลฟ์ อิเลคตริก จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือใน โครงการอนุรักษ์โลมาในอ่าวไทยตอนใน เพื่อร่วมอนุรักษ์ถิ่นที่อยู่อาศัยและแหล่งหากินตามธรรมชาติของโลมาอย่างมีส่วนร่วม โดยเฉพาะโลมาอิรวดี ซึ่งถือเป็นสัตว์คุ้มครองที่เสี่ยงต่อการใกล้สูญพันธุ์ นอกจากนี้ยังเป็นสัตว์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระบรมราชินีนารถ ตามพระราชประสงค์ให้ช่วยกันอนุรักษ์สัตว์หายากชนิดนี้อีกด้วย ทั้งนี้พื้นที่การทำงานของโครงการครอบคลุมบริเวณ 5 ปากแม่น้ำสำคัญ คือ บางปะกง เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลองและเพชรบุรี เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจะประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับกรมทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชุมชนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ
“WWF ประเทศไทยมีแผนกลยุทธ์ในการอนุรักษ์ถิ่นที่อยู่อาศัยและชนิดพันธ์ที่ใกล้สูญพันธ์ในอ่าวไทยตอนใน อย่างเช่นโลมาอิรวดี ซึ่งถือเป็นสัตว์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถปรับตัวได้ทั้งน้ำทะเล น้ำกร่อยและน้ำจืดที่ห่างจากชายฝั่งหลายร้อยกิโลเมตร” ดร. โรเบิร์ต มาร์เธอร์ ผู้จัดการอาวุโส Living Mekong Programme ของ WWF กล่าว
“ในแม่น้ำโขง เราพบโลมาอิรวดีอาศัยอยู่ที่แม่น้ำโขงตั้งแต่ชายแดนลาว ถึงเมืองคาร์เช ในเขมร ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่ง WWF เราดำเนินโครงการอนุรักษ์โลมาคล้าย ๆ กับโครงการนี้ คือทำวิจัยเพื่อทำฐานข้อมูลซึ่งจะนำมาสู่การวางแผนการจัดการที่ถูกต้อง ให้มีการศึกษาและสร้างจิตสำนึก สุดท้ายเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในรูปแบบที่เหมาะสม ในปี 2548 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชมโลมา แม่น้ำโขงที่เมืองคาร์เชกว่า 10,000 คน และชาวกัมพูชาอีกกว่า 90,000 คน”
ผู้จัดการอาวุโส ของ WWF กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ดังนั้นกระผมมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ WWF ประเทศไทยกำลังจะดำเนินงานอนุรักษ์โลมาอิรวดีในอ่าวไทยตอนในอีกด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะมีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ ชุมชนท้องถิ่นในอนาคตอันใกล้นี้”
“โครงการอนุรักษ์โลมา ฯ นี้จะเป็นการสร้างจิตสำนึกแก่คนรุ่นใหม่ในการหวงแหนสิ่งแวดล้อมและจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมในภายภาคหน้า” นายสารัชถ์ รัตนวะดี กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท กัลฟ์ อิเลคตริก จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือ “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม“
  “เรื่องของงานอนุรักษ์เราไม่สามารถเฉพาะเจาะจงอยู่เพียงหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใดคงไม่ได้ จึงนับว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่เห็นความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามาช่วยกันทำงานด้านนี้” นายสุวัช สิงห์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวยินดีต่อโครงการ

“โลมาอิรวดีทั่วโลกนี่ มีปริมาณเหลืออยู่น้อยเต็มที คิดว่าน่าจะไม่เกิน 2000 ตัว อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย เขมร พม่า อินเดีย สาเหตุที่ปริมาณโลมาลดน้อยลง ก็คือ ถิ่นที่อยู่อาศัยที่เสื่อมโทรม การจับปลาที่มากเกินไป ทำให้จำนวนปลาที่เป็นอาหารของโลมาลดน้อยลง” รองปลัดฯ กล่าวถึงภัยคุกคามของโลมาทิ้งท้าย

โครงการนี้มุ่งเน้นการทำงานอย่างมีส่วนร่วมใน 4 ส่วนงานหลัก ๆ คือ การสำรวจวิจัยโลมา การศึกษาการใช้ประโยชน์พื้นที่ชายฝั่งและทะเล การสร้างจิตสำนึกแก่เด็กและเยาวชน และการสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์ เพื่อบรรลุเป้าหมายของการอนุรักษ์ถิ่นที่อยู่อาศัยและแหล่งหากินของโลมา...สัตว์ที่ถือเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของชายฝั่งทะเลและแม่น้ำ ซึ่งเป็นฐานทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประชาชนตลอดแนวชายฝั่งและประเทศไทย







โดย:
งาน: งานผลิตเอกสาร
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: http://www.wwfthai.org/th/index.asp

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 0

อ่าน 0 ครั้ง