![]() |
|
|
คนไทยกับนิสัยรักการอ่านอย่างถาวรนั้น หากเทียบกับประชาชนทางประเทศแถบตะวันตกแล้วจำนวนสถิติยังห่างกันอยู่ค่อนข้างมาก ส่วนสาเหตุนั้นนอกจากจะเป็นด้วยเรายังเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา วิถีชีวิตความเป็นอยู่ยังเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตด้านอื่น ๆ การทำมาหากินเพื่อให้ชีวิตอยู่รอดจึงถือเป็นเรื่องใหญ่เป็นอันดับแรกและอีกปัญหาหนึ่งก็น่าจะมาจากปัญหาที่ภาครัฐไม่ได้มีการส่งเสริมสนับสนุนให้คนไทยเกิดนิสัยรักการอ่านอย่างจริงจังหรือแม้จะมีการส่งเสริมกันอยู่บ้างแต่แหล่งเรียนรู้หรือสื่อที่จะทำให้เด็กและเยาวชนไทยสนใจค้นคว้าศึกษาหรือสนใจกับการอ่านจนเป็นกิจนิสัยยังไม่เกิดขึ้น
โดยเฉพาะห้องสมุดของสถานศึกษาในอดีตที่ผ่านมานอกจากจะไม่มีทั่วถึงทุกโรงเรียน หรือขาดแคลนสื่อ หนังสือ ที่ตรงกับความสนใจและความต้องการกับการอ่านของเด็กแล้ว การที่ห้องสมุดสถานศึกษาที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบ ข้อบังคับ ในการใช้ จึงเป็นเหมือนกำแพงขวางกั้นเด็ก ถ้าหากไม่จำเป็นจริง ๆ ก็ไม่อยากเข้าใกล้ห้องสมุด ทำให้เจตคติกับการใช้ห้องสมุดดังกล่าวติดตัวจนเติบใหญ่ เมื่อเรียนจบจากการศึกษาแล้วก็ถือว่าจบกัน และไม่อยากที่จะอ่านหาความรู้เพิ่มเติม หรืออ่านเพื่อให้เกิดความเพลิดเพลิน เกิดจินตนาการอีกต่อไป ทำให้สถิติการอ่านของคนไทยยังเกิดขึ้นได้น้อยหากเทียบกับจำนวนประชากรที่มีอยู่ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อประเทศไทยได้มีการจัดตั้งสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ หรือ TK Park ขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2548 เป็นต้นมา ก็ต้องยอมรับว่าได้เป็นส่วนสำคัญที่ไม่น้อยกับการปรับเจตคติการอ่านและการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ของเด็กและเยาวชนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เพราะจากเวลา 2 ปีที่ TK Park เกิดขึ้นได้เกิดความสำเร็จมากมายทั้งด้านปริมาณของผู้ที่เข้าใช้บริการทั้งการศึกษาค้นคว้าความรู้ในห้องสมุดมีชีวิตแล้วกว่า 3 ล้านคนทั้งการเป็นสมาชิกถาวร ผู้มาใช้ชั่วคราว ผู้เข้ารับบริการด้วยเครื่องมือสารสนเทศ การเข้าร่วมฝึกอบรมและร่วมกิจกรรมการเรียนรู้จากโครงการต่าง ๆ และสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งอีกประการหนึ่งก็คือผู้ที่มาใช้บริการนั้นมีทุกเพศทุกวัยตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบไปจนถึง 70 ปี แสดงให้เห็นถึงการรักการอ่านได้เริ่มเกิดขึ้นกับผู้คนอย่างหลากหลาย หากถามว่าเหตุใดอุทยานการเรียนรู้จึงมีผู้สนใจเข้ารับบริการมากมายเช่นนั้นทั้งที่นิสัยคนไทยโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนกับการใช้ห้องสมุดหรือการอ่านนั้นอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ ส่วนนี้ก็น่าจะมี สิ่งที่กระตุ้น หรือจูงใจให้ เด็ก เยาวชนและ ประชาชน เกิดความสนใจขึ้นได้ ซึ่งสิ่งที่ว่านี้น่าจะมาจากประเด็นสำคัญการดำเนินงานของอุทยานการเรียนรู้ต่าง ๆ ประกอบด้วย เรื่องแรกน่าจะเป็นเพราะด้วย แนวคิด ที่มีการนำความรู้เคลื่อนที่ไปหาเด็กยังแหล่งที่มีเด็กและเยาวชนรวมตัวกันอยู่มาก ๆ แทนที่จะเป็นฝ่ายที่ตั้งรับรอให้เด็กเข้ามาใช้บริการตามห้องสมุดสถานศึกษาอย่างเดิมที่เคยปฏิบัติกันมา ซึ่งแหล่งที่เด็กและเยาวชนมักไปรวมตัวกันอยู่ค่อนข้างมากแห่งหนึ่งคงหนีไม่พ้นห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้า อุทยานการเรียนรู้ จึงได้เลือกใช้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า กรุงเทพมหานคร จัดตั้งห้องสมุดมีชีวิตขึ้น นับเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่นำศูนย์การเรียนรู้เข้าไปอยู่ในศูนย์การค้า ทำให้ผู้ที่ไปห้างทั้งหลายได้แวะเวียนอ่านและหาความรู้ในศูนย์การเรียนรู้ที่ทันสมัยแห่งนี้จนเกิดเป็นกิจนิสัยประจำ นอกจาก TK Park จะใช้กลยุทธ์นำความรู้ไปหากลุ่มเป้าหมายโดยตรงแล้ว กระบวนการจัดศูนย์การเรียนรู้เพื่อให้เป็นที่สนใจของผู้อ่านทุกระดับทุกเพศทุกวัยก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งโดยเฉพาะในการจัดบรรยากาศให้เอื้ออำนวยที่จะทำให้เด็กอยากเข้าไปมั่วสุมอย่างสร้างสรรค์รวมไปถึงแนวทางในการจัดหาสื่อและกิจกรรมที่จะทำให้โดนใจของผู้รับบริการซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ใครก็คงไม่ทราบดีเท่ากับผู้ที่จะเข้าใช้บริการ อุทยานการเรียนรู้จึงได้นำกลุ่มเด็กและเยาวชนเข้ามาร่วมดำเนินการตั้งแต่การเข้ามาร่วมเป็นบอร์ดในการบริหารจัดการ และร่วมเป็นคณะกรรมการคัดเลือกสื่อ หนังสือ วารสารต่าง ๆ ส่วนนี้จึงทำให้ทุกส่วนที่เกิดขึ้นโดนใจผู้ใช้ ทั้งการจัดบรรยากาศของห้องสมุดที่มีความหลากหลายสไตล์ตามความสนใจของเด็กและเยาวชนทุกเพศทุกวัย อาทิ กลุ่มผู้ต้องการใช้สมาธิในการอ่านจะมีมุมอ่านหนังสือเงียบ หรือหากต้องการอ่านอย่างสบาย ๆ ก็จะมีมุมอ่านที่มองเห็นทิวทัศน์บรรยากาศอันสวยงามของกรุงเทพมหานครในภาพกว้าง พร้อมทั้งมีอาหารหรือกาแฟไว้ให้บริการอีกด้วย ส่วนเด็ก ๆ จะมีมุมที่สามารถทำกิจกรรมเล่นปนเรียนได้อย่างสนุกสนาน ทั้งบันไดรักการอ่าน ที่อ่านรังผึ้ง มุมวิดีโอการ์ตูน มุมหนังสือเด็ก ฯลฯ สำหรับเยาวชนนอกจากจะมีหนังสือ วารสารที่ทันสมัยทั้งในและต่างประเทศอย่างมากมาย แล้วยังมีสื่อไฮเทคโนโลยี มุมฟังเพลงและโซนความรู้จากอินเทอร์เน็ต ห้องฉายภาพยนตร์ ห้องฉายภาพเสมือนจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซนลานสานฝัน ที่ได้ใช้เป็นศูนย์รวมการแสดงออกในศักยภาพของเด็กและเยาวชนทางสร้างสรรค์ ทั้งด้านดนตรี ศิลปะการแสดง ศิลปหัตถกรรม กีฬา และความรู้จากนิทรรศการด้านต่าง ๆ ตามเทศกาลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมถึงกิจกรรมที่จะเติมฝันให้เด็กไทยไปสู่มืออาชีพด้วยการฝึกทักษะจากมืออาชีพในสาขาต่าง ๆ มาให้ความรู้และปฏิบัติจริงพร้อมทั้งการจัดทำสื่อที่ขยายผลไปสู่ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ หนังสือคู่มือเติมชีวิตให้ห้องสมุด หนังสือชุดเพลงพระราชนิพนธ์ “เลิศล้ำคำกรองทำนองแห่งแผ่นดิน” จุลสาร TK Park ชุดนิทานพื้นบ้าน สื่อเกมการเรียนรู้ หนังสือเสียงและภาษาไทยและต่างประเทศ และเพื่อโอกาสการเข้าถึงในองค์ความรู้อย่างสร้างสรรค์ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะ ที่อุทยานการเรียนรู้กรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่สิ่งที่ดีงามนี้ได้ขยายผลไปสู่ชนบทในทุกพื้นที่ด้วยรูปแบบการดำเนินการด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจและปรับเปลี่ยนเจตคติให้กับเจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ห้องสมุดของสถานศึกษาและหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมถึงผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องถึงการจัดห้องสมุดที่มีชีวิตโดยการนำผู้เชี่ยวชาญในการจัดห้องสมุดมีชีวิตทั้งในและต่างประเทศมาถ่ายทอดให้ความรู้ พร้อมทั้งดำเนินการจัดประกวดห้องสมุดมีชีวิตที่ใช้รูปแบบใหม่ด้วยการนำผลการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอนมาเป็นเกณฑ์ตัดสินเพื่อรับเงินรางวัลและโล่เกียรติยศจาก TK Park การประกวดสุดยอดนักอ่าน การแข่งขันการประดิษฐ์สื่อ E-Book การประกวดสร้างผลงานทางไฮเทคโนโลยี เป็นต้น นอกจากนั้นเพื่อเป็นการตอบสนองกับความต้องการของโลกยุคสมัยใหม่ที่เด็กและเยาวชนสนใจการใช้คอมพิวเตอร์และการท่องอินเทอร์เน็ตกันอย่างกว้างขวาง ทางอุทยานการเรียนรู้ก็ได้นำความรู้เพื่อรองรับกับความสนใจของเด็กโดยได้นำสื่อทุกประเภท และความรู้ที่มีอยู่ในอุทยานการเรียนรู้บรรจุเข้าไปในอินเทอร์เน็ต กลายเป็น ห้องสมุดดิจิตอล ที่เพียงแค่เปิดเว็บไซต์ของ TK Park ก็จะมีข้อมูลให้ศึกษาค้นคว้าได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการเปิดโอกาสในความรู้ไม่ได้อยู่แค่กิจกรรมที่กล่าวมาเท่านั้น แต่ยังได้ขยายห้องสมุดต้นแบบไปยังส่วนภูมิภาคโดยขณะนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว 1 แห่งที่จังหวัดยะลา ส่วนนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่ใกล้เคียงได้รับประโยชน์จากศูนย์การเรียนรู้ที่ทันสมัยแห่งนี้ ซึ่งจะกลายเป็นคลังอาวุธทางปัญญาที่สำคัญในการช่วยแก้ปัญหาความไม่สงบให้หมดไปในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งการเกิดอุทยานการเรียนรู้ต้นแบบแต่ละแห่งนั้นเท่าที่ทราบต้องใช้งบประมาณลงทุนค่อนข้างสูงการที่จังหวัดยะลาสามารถดำเนินการสำเร็จได้ก่อนภาคอื่นก็มาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในจังหวัดยะลาเป็นอย่างดี ส่วนภาคอื่น ๆ ตอนนี้ก็คงต้องรอความหวังกันต่อไป จากความสำเร็จทั้งด้านปริมาณและคุณภาพที่อุทยานการเรียนรู้ได้ดำเนินการให้เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นก็เป็นเสมือนการจุดเชื้อไฟรักการอ่านให้เกิดขึ้นกับคนไทยได้ระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งการที่จะเติมเชื้อไฟให้คนไทยรักการอ่านกันมากเพิ่มขึ้นและเป็นการรักการอ่านจนเป็นนิสัยที่ถาวรต่อไปได้นั้นคงจะปล่อยให้หน่วยงานแห่งนี้ดำเนินการแต่เพียงลำพังคงไม่ไหวแน่ จึงเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องเข้ามาให้การสนับสนุนอย่างจริงจังในทุกรูปแบบ ส่วนจะทำอย่างไร อุทยานการเรียนรู้ได้ทำเป็นต้นแบบให้เห็นเป็นแบบอย่างอยู่แล้ว ส่วนนี้หากรัฐบาลได้มีการขยายอุทยานการเรียนรู้ต้นแบบไปยังภูมิภาค ต่าง ๆ หรือหากทำได้ครบทุกจังหวัดด้วยยิ่งเป็นการดี แม้จะต้องใช้งบประมาณมากพอสมควรก็ตาม แต่ด้วยการอ่านถือเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะเปิดประตูไปสู่ความรู้ได้อย่างรอบด้าน ซึ่งการลงทุนเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บอาวุธทางปัญญาให้กับคนในชาติ แม้จะต้องลงทุนมากเท่าไรก็ต้องยอม ดีกว่าปล่อยให้คนในชาติด้อยคุณภาพแล้วก็ถูกหลอกเป็นเครื่องมือของผู้ที่ไม่หวังดีแล้วพลอยทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองวุ่นวาย ขาดความสมานฉันท์ เห็นแก่ตัวจนเกิดวิกฤติของชาติ อย่างปัจจุบัน เมื่อมาถึงตอนนี้คงทราบแล้วว่างบประมาณที่นำมาแก้ปัญหา และเศรษฐกิจของชาติในภาพรวมเสียหายไปแล้วกี่แสนล้านบาท มากกว่าที่จะคิดลงทุนเพื่อการศึกษาไปแล้วกี่เท่าก็ลองคำนวณดูเอาเองก็น่าจะรู้ได้นะครับ. กลิ่น สระทองเนียม |
http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?Newsid=115040&NewsType=1&Template=1 |
โดย:
งาน: อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: 24 มกราคม 2550 หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
![]() |
![]() |