|
|
ไขปัญหาในครอบครัวด้วยกุญแจหัวใจ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว การพูดเป็นกุญแจดอกเล็ก ๆ ที่สำคัญ ที่จะทำให้ครอบครัวมีความเข้าใจ สนินสนมผูกพัน รักใครซึ่งกันและกันได้ แล้วเคยไหม ? บางครั้งแค่เอ่ยคำพูดง่าย ๆ กับใครสักคน เราก็พูดไม่ออก หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี ผู้เขียนคิดว่าผู้อ่านหลายท่านอาจเคยเผชิญกับสถานการณ์อย่างนี้ โดยเฉพาะการเริ่มต้นพูดจากับคนที่เรารัก อย่างเช่น บุตรหลานที่อยู่ในวัยซุกซนและชอบเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง บอกนิดบอกหน่อยก็มีท่าทางกระฟัดกระเฟียด กระทืบเท้าแสดงกิริยาด้วยความไม่พอใจ จนกลายเป็นเรื่องบานปลายใหญ่โต แล้วจะมีวิธีการอย่างไร ? จัดการกับปัญหาอย่างนี้....... วิธีการที่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการสื่อสารให้ความเห็นว่า น่าจะใช้เป็น กุญแจ ที่จะช่วยทำให้เด็ก เปิดใจ และยอมเล่าความรู้สึกนึกคิดที่เขาเก็บอยู่ภายในกับผู้ใหญ่ได้นี้ เป็นวิธีการง่าย ๆ ที่จะช่วยลูก ๆ หันมาฟัง เวลาที่พ่อแม่พูด ซึ่งคุณพ่อแม่อาจค่อย ๆ เรียนรู้ทำความเข้าใจ โดยเริ่มต้นง่าย ๆ ดังนี้ ฝึกการเจรจาอย่างสร้างสรรค์กันเถอะ พูดน้อย........ฟังมาก โดยเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ฟังที่ดี พ่อแม่อย่าเอาแต่พูดฝ่ายเดียว ควรใช้ การพูดหรือเตือนทางอ้อม โดยสอดแทรกเรื่องต่าง ๆ ไปกับการพูดคุยในชีวิตประจำวันว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นแล้วมีผลอย่างไร และควรรับฟังลูกก่อนด้วยท่าทีสนใจไม่รีบติงหรือชิงสั่งสอน ให้เกียรติในความคิด ไม่ควรทำให้ลูกรู้สึกว่าถูกยัดเยียดให้คิดอย่างพ่อแม่คิด ให้เวลาเข้าได้พิจารณา และแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยไม่ขัดจังหวะหรือขัดคอลูก ขณะเดียวกันเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้แสดงความคิดเห็น และตัดสินใจในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว เช่น แสดงความเห็นในคำสั่งบางเรื่องของพ่อแม่ หรือกฎระเบียบประจำบ้านบางอย่าง เป็นต้น แสดงออกให้ลูกรู้ว่าคุณกำลังฟังเขา มองหน้า สบตากับลูกเวลาที่ลูกพูด นั่งให้อยู่ในระดับเดียวกับเขาโดยอาจนั่งข้าง ๆ ก็ได้ คุยให้ถูกเวลา หาจังหวะดี ๆ ที่จะคุยกับลูก โดยปกติแล้วเวลานอน เหมาะกับเด็กเล็ก และเด็กวัยเรียน เรื่องที่คุยควรเป็นเรื่องสบาย ๆ อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันที่ผ่านมาหรือเรื่องที่เขาไม่สบายใจ หาก เป็นช่วงเวลารับประทานอาหาร พ่อแม่ควรหลีกเลี่ยงการพร่ำสอน หรือบ่นว่า จึงควรคุยเรื่องเบา ๆ และเวลาทำงานบ้าน พ่อแม่ควรทำตัวอย่างให้ลูกได้เห็นและแนะนำวิธีการเพื่อให้ลูกทำเป็น หลีกเลี่ยงการดุด่า ทั้งนี้ การพูดคุยกันอย่างเต็มที่ โดยไม่มีอะไรมาดึงความสนใจ น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด ใส่ใจกับสีหน้า ท่าทางที่ลูกแสดงออก เรียนรู้ว่าลูกกำลังรู้สึกอย่างไรจากภาษากาย ท่าทางที่เขาแสดงออก สังเกตว่าลูกยิ้มหรือหน้านิ่ว ดูผ่อนคลายหรือตึงเครียด เข้าใจให้กระจ่างชัด พยายามทำความเข้าใจคำพูดของลูก คุณอาจทวนถามซ้ำเพื่อเพิ่มความเข้าใจหรือเพื่อช่วยยืนยันว่าคุณเข้าใจคำพูดของเขาได้ถูกต้องแล้ว เลี่ยงการเทศนา อย่าด่วนแสดงความเห็นหรือถามคำถามที่เป็นการตัดสินพฤติกรรมของลูก แต่ช่วยให้เขาได้คิดหาคำตอบหรือหาทางออกด้วยตัวเขาเองจะเหมาะกว่า พูดภาษากาย ภาษากายช่วยสื่อคำพูดที่อยู่ในใจ การแสดงออกซึ่งควมรัก ความเอื้ออาทรด้วยความจริงใจ อย่างเช่นการใช้สายตาสื่อแสดงความห่วงใย การกอดและการสัมผัสเบา ๆ ไม่ว่าในสถานการณ์ที่มีความสุขหรือทุกข์ จะสร้างความประทับใจในทางที่ดีให้เกิดขึ้น แม้การคุยกับลูก ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าคุณเรียนรู้ที่จะใช้คำพูดบางคำ หรือบางประโยคให้เหมาะสมที่จะสื่อกับลูกของคุณ จะช่วยให้ลูกแบ่งปันความรู้สึกของเขาให้คุณรับรู้ได้ หัดใช้กุญแจและคำพูดเปิดใจที่เหมาะสมในครอบครัวของคุณบ่อย ๆ เพื่อสร้างความใกล้ชิดและเสริมบรรยากาศแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน เพราะนั่นคือกุญแจดอกสำคัญสำหรับการสื่อสารในครอบครัว ที่สำคัญแบบอย่างที่ดีจากพ่อแม่ จะช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือและมีเสน่ห์ดึงดูดให้ลูกซึมซับกับสิ่งที่ได้เห็นและเรียนรู้ต่อไป |
รายละเอียด |
โดย:
งาน: อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: วารสารทางการศึกษาสำหรับครู |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |