เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี ศ.นพ.สมยศ คุณจักร อาจารย์ประจำภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยความสำเร็จของการใช้สเต็มเซลล์รักษาเส้นเสียงแหบเป็นครั้งแรกในโลก ว่า การรักษาเส้นเสียงแหบด้วยสเต็มเซลล์ครั้งนี้ ใช้สเต็มเซลล์จากผิวหนังมาเพาะเลี้ยง ซึ่งทำได้ง่ายและให้สเต็มเซลล์ในปริมาณที่สูง เมื่อนำมาผ่านกระบวนการเพาะเลี้ยงเป็นสเต็มเซลล์ ปรากฏว่าได้เซลล์แบ่งตัวเพิ่มถึง 10 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร หรือมากกว่า ซึ่งเมื่อเทียบกับต่างประเทศแล้วพบว่าสเต็มเซลล์ในการวิจัยค่อนข้างมีปริมาณสูงและใช้เวลาน้อย ทีมงานที่ศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นทีมวิจัยจากมหิดล โครงการวิจัยสเต็มเซลล์และเนื้อเยื่อทดแทน สำหรับขั้นตอนการรักษาเมื่อได้เซลล์มาแล้ว จะเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง ในอุณหภูมิที่ติดลบ จากนั้นจึงนำมาฉีดที่สายเสียง โดยคนไข้ต้องดมยาสลบ หลังจากฉีดแล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์ คนไข้จะมีอาการดีขึ้น แต่ในบางรายอาจจะต้องฉีดมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้สายเสียงสามารถกลับมาทำงานได้ดังเดิม
ศ.นพ.สมยศกล่าวอีกว่า การนำสเต็มเซลล์มาใช้ในกลุ่มผู้ป่วยเส้นเสียงแหบ ใช้สเต็มเซลล์จากร่างกายของผู้ป่วยเอง ในกลุ่มที่เรียกว่า adult stemcellซึ่งการรักษาไม่ใช่ว่าจะใช้ได้กับผู้ป่วยเสียงแหบทุกคน แต่จะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะของสายเสียงที่เป็นอัมพาต หรือกรณีผู้สูงอายุที่มีเสียงแหบเครือ ไม่มีพลัง ซึ่งมาจากสายเสียงมีการหดตัวลงทำให้เสียงแหบ และกรณีของคนที่เส้นเลือดแตกในสมอง หรือเส้นประสาทถูกตัดไป สามารถที่จะใช้สเต็มเซลล์ในการทำให้เสียงไม่แหบได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยให้ได้เส้นประสาทที่ถูกตัดไปกลับคืนมา การใช้สเต็มเซลล์จากตัวของผู้ป่วยถือว่ามีความปลอดภัย 100% เพราะร่างกายจะไม่มีการต่อต้าน ที่ผ่านมาได้ใช้วิธีการนี้รักษาคนไข้ไปแล้วประมาณ 7-8 ราย พบว่าได้ผลดี 80-90% ซึ่งถือว่าดีมากและถือเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการรักษาด้วยวิธีนี้ โดยในอนาคตคงจะมีการพัฒนาการรักษาเส้นเสียงแหบด้วยสเต็มเซลล์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำลังมีการวิจัยนำสเต็มเซลล์ไปใช้ในการรักษาความผิดปกติของอวัยวะอื่นๆ ซึ่งขณะนี้สามารถพัฒนาเป็นหลอดลมได้แล้วในระดับหนึ่ง โดยจะนำเสนอความสำเร็จครั้งนี้ในวารสารการแพทย์ต่อไป. |
