[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

ภาวะตาแห้งอาจทำให้คุณตาบอดได้

เนื่องด้วยมลพิษจากสภาวะแวดล้อมหรือการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน  ตลอดจนการนั่งอยู่ในห้องปรับอากาศ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ดวงตาคุณเริ่มมีปัญหาระคายเคือง  แสบตา  เมื่อยตา  หรือเจ็บตาเล็กน้อย  ฯลฯ อาการเหล่านี้  นอกจากจะทำให้เกิดความรำคาญแล้ว  ยังทำให้คุณตาแดง ขาดบุคลิกภาพที่ดี  และมองโลกไม่สดใสเหมือนเช่นเดิม

ธรรมชาติของการปกป้องดวงตา
ปกติดวงตาของเราถูกเคลือบด้วยน้ำตาในลักษณะที่เป็นฟิล์มบางๆไว้ตลอดเวลา  การกระพริบตาแต่ละครั้งจะสร้างฟิล์มน้ำตาขึ้นมาใหม่  เพื่อปกป้องและให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตาทดแทนฟิล์มน้ำตาที่ระเหยไป  ในภาวะปกติจะมีการกระพริบตาเฉลี่ย 10-15 ครั้ง / นาที  เมื่อมีการใช้สมาธิในการทำงานเช่น นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจอทีวี จะทำให้กระพริบตาลดลง  เป็นสาเหตุให้เกิดอาการตาแห้ง

ฟิล์มน้ำตา  มีหน้าที่สำคัญคือ
1. ให้อาหารกับเซลล์ผิวของเยื่อบุตาและกระจกตา
2. ทำการหล่อลื่นและให้ความชุ่มชื่นแก่ดวงตา
3. ปกป้องดวงตาจากมลพิษต่างๆในสิ่งแวดล้อม เช่นฝุ่น  ควัน  และอื่นๆ
4. มีความเกี่ยวข้องกับการมองเห็น  เนื่องจากฟิล์มน้ำตามีส่วนในการหักเหของแสงที่เข้าสู่ดวงตา
ฉะนั้นหากน้ำตาที่ร่างกายสร้างขึ้น  มีจำนวนน้อยลงหรือมีคุณภาพด้อยลง  ก็จะนำไปสู่อาการ''ตาแห้ง''ได้

อาการตาแห้ง
1. แสบตา  เคืองตา  ฝืดตา  รู้สึกไม่สบายตาเหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตา
2.เมื่อยตา  เจ็บตา  ขณะกระพริบตา  รู้สึกหนักตา
3. การมองเห็นอาจลดลง  หรือมองเห็นภาพไม่ชัดเท่าที่ควร
4. ถ้าไม่รีบทำการรักษาจนมีอาการเรื้อรัง  อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ  การแพ้  หรือ การอักเสบของดวงตาได้

ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะตาแห้งที่คุณอาจคาดไม่ถึง
* สภาพอากาศที่แห้ง  เช่น  ในห้องปรับอากาศ
* การใช้สายตามากเกินไป  เช่น  การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ  ทำให้กระพริบตาน้อยลง
ดวงตาจึงแห้งเพราะขาดฟิล์มน้ำตามาเคลือบ
* มลพิษในอากาศ  เช่น  ฝุ่น  ควัน
* การใส่คอนแทคเลนส์
* ภายหลังจากการทำ  LASIK  ใหม่ๆ
* อายุที่มากขึ้น  ทำให้มีการสร้างน้ำตาลดลง
* ผลจากการรับประทานยาบางชนิดเป็นเวลานาน  เช่น  ยาแก้แพ้  มีผลทำให้ร่างกายสร้างน้ำตาลดลง

ข้อแนะนำในการใช้น้ำตาเทียม  เพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง
1. เมื่อมีอาการตาแห้ง  ในระยะแรกให้หยอดน้ำตาเทียมวันละ 4-5 ครั้ง
2. เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว  ลดความถี่ลง  เป็นวันละ2-3 ครั้ง  นาน 2 สัปดาห์  จึงค่อยๆหยุดใช้น้ำตาเทียม
3. ถ้าเริ่มมีอาการตาแห้งอีก  ควรใช้น้ำตาเทียมต่อไป
4. ก่อนใช้น้ำตาเทียม  ควรอ่านเอกสารกำกับยา  และดูวันหมดอายุก่อนใช้
5. การหยอดตา  ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสปลายขวดกับดวงตา  หรือขนตาขณะหยอด
6. ควรทิ้งยาหลังการเปิดใช้ครั้งแรกแล้ว 1 เดือน

ข้อควรปฏิบัติเพื่อสุขภาพ  และความสดใสของดวงตา
1. หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะตาแห้ง
2. ควรพยายามกระพริบตาอย่างน้อย 10 - 15 ครั้ง / นาที  หากต้องใช้สายตานานๆ
3. ผู้มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป  ควรได้รับการตรวจเช็คสุขภาพตา  อย่างน้อยปีละครั้ง
4. ใช้น้ำตาเทียม  เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นกับดวงตา  และบรรเทาอาการตาแห้ง
5. กรณีอาการตาแห้งไม่ดีขึ้น  ควรพบจักษุแพทย์โดยด่วน







โดย:
งาน:
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: บทความจากแผ่นพับของบ.โนวาร์ตีสโดย นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 0

อ่าน 0 ครั้ง