สธ.ห่วงโรคมือ เท้า ปากระบาดหนัก โดยเฉพาะในเด็กเล็ก พบผู้ป่วยติดเชื้อตัวใหม่ "เอนเทอโรไวรัส 71" ที่รุนแรงขึ้นถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซ้ำไม่เคยพบมาก่อนในประเทศไทย สั่งเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

           วานนี้ (24 สิงหาคม) น.พ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ระบาดของโรคมือ เท้า ปาก ว่า ปีนี้ต้องเพิ่มการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีรายงานพบเด็กป่วยกว่า 7,000 คน และเสียชีวิต 2 คน ทั้งที่ประเทศไทยปลอดจากการเสียชีวิตด้วยโรคนี้มานานถึง 5 ปีแล้ว และจากรายงานการเฝ้าระวังทางห้องปฏิบัติการพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากการติดเชื้อไวรัสค็อกซากี เอ มาเป็นการติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ที่มีความรุนแรงยิ่งขึ้น จึงได้มีการตั้งวอร์รูมโรคมือ เท้า ปาก เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

           ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันที่ 25 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมคณะทำงาน สรุปข้อมูลและรื้อแผนการตรวจรักษาโรคในเด็ก ให้มีการส่ง ตัวอย่างเชื้อในเด็กที่อาการรุนแรง เข้าข่ายติดเชื้อในกระแสเลือด และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เพื่อดูว่า เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการเสียชีวิตหรือไม่ ก่อนวางแนวทางการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำยิ่งขึ้นไม่ให้เกิดการเสียชีวิตจากโรคนี้อีก

           อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ เน้นดูแลเด็กเล็กให้มากยิ่งขึ้น ส่วนประชาชนที่มีบุตรหลาน ขอให้สังเกตอาการเด็กให้ดี หากป่วย มีไข้ ไอ หอบ มีแผลในปาก หรือผื่นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า บางรายอาจมีแค่แผลในปาก หรือตุ่มที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เพียงอย่างเดียว ก็ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

           ขณะที่ นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวเช่นกันว่า ปกติแล้วโรคมือ เท้า ปาก ที่ระบาดในประเทศไทยจะเกิดจากเชื้อค็อกซากี ซึ่งไม่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แต่ในปีนี้กลับตรวจพบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปากติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ซึ่งไม่เคยพบผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวในประเทศไทยมาก่อน แต่เป็นเชื้อที่พบการระบาดในต่างประเทศและมีความรุนแรงถึงแก่ชีวิต จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันป้องกัน และเฝ้าระวังโรคนี้อย่างเข้มข้น