|
|
|
| ประวัติวันวาเลนไทน์ วันวาเลนไทน์มาจากชื่อของนักบุญวาเลนไทน์ (St.Valentine) ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยกษัตริย์ Claudiusที่ 2 แห่งกรุงโรม ในสมัยนั้นกษัตริย์ Claudius ออกกฎ ห้ามให้มีการแต่งงาน ในเมืองของพระองค์ เพราะกษัตริย์ทรงต้องการทำศึกสงคราม ทรงต้องการให้ผู้ชายทุกคนไปเป็นทหาร พระองค์เชื่อว่าถ้าไม่มีการแต่งงานผู้ชายจะสนใจกับการรบมากขึ้น นักบุญวาเลนไทน์ขัดบทบัญญัติแห่งกฎหมายของกษัตริย์ด้วยการเป็นบาทหลวงในพิธีแต่งงาน ให้หนุ่มสาวที่ต้องการแต่งงานอย่างลับ ๆ...และแล้ววันหนึ่งข่าวการทำ พิธีสมรสของนักบุญวาเลนไทน์ ก็รู้ถึงหูของพระเจ้าClaudius พระองค์จึงทรงสั่งทหารไปจับเขาไปประหารชีวิต...... ระหว่างอยู่ในคุกมีคู่แต่งงานที่ท่านเคยทำพิธีให้หลายคู่ลอบไปเยี่ยมเยียนท่านอย่างสม่ำเสมอ และที่นั่นท่านยังได้รู้จักกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกสาวของผู้คุมเธอมักมาพูดคุยกับท่าน... และบอกท่านเสมอ ๆ ว่าการกระทำของท่านถูกต้องแล้วนักบุญวาเลนไทน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในปี 296 A.D. ในคุกแห่งนั้นเอง ก่อนตายท่านได้ฝากโน๊ตสั้น ๆ ถึงเพื่อนของท่านและลงท้ายว่า ''Love from your Valentine''... ในปี 496 A.D. โป๊ป Gelasiusได้ยกย่องให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงคุณความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละของนักบุญวาเลนไทน์.. .เราจึงมักถือเอาวันนี้เป็นวันแห่งความรัก ในระยะต่อมาวันวาเลนไทน์ใช้แทนความรักของหนุ่มสาวเป็นส่วนใหญ่ โดยในวันนี้จะมีการส่งขนม (โดยเฉพาะช็อคโกแลต) ดอกไม้(ส่วนใหญ่จะดอกกุหลาบ) ให้กับคนที่รัก ดอกไม้และความหมายของความรัก มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่ สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ดอกไม้แต่ละชนิด สามารถสื่อความรักได้หลายรูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย กุหลาบแดง (red rose) : ส่วนใหญ่จะใช้ในความหมายแทนประโยคที่ว่า ”ฉันรักเธอ” การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่รักความหมายถึงความรักอันลึกซึ้ง จริงจัง กุหลาบแดงจึงมักจะเป็นดอกไม้ ที่ชายหนุ่มให้หญิงสาวที่ตนเองตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน กุหลาบขาว (white rose) : สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธ์ กุหลาบขาวจึงแทนความหมาย แห่งความรักอันบริสุทธิ์ใจไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ดังนั้นมันจึงสามารถใช้แทนความรักของคนต่างวัย ความรักต่อพ่อแม่ เพื่อน หรือคนที่เรารู้สึกดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจได้ กุหลาบชมพู (pink rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน การให้ดอกกุหลาบสีชมพูสามารถแสดงถึงความรักที่กำลังเริ่มงอกงามในใจ และสามารถพัฒนาต่อไป เป็นความรักที่ลึกซึ้งได้ กุหลาบเหลือง (yellow rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใสกุหลาบสีเหลืองถูกใช้สำหรับ แทนความรักแบบเพื่อน และความสนุกสนานรื่นเริงจึงมักจะนำมันมาประดับตะกร้าสำหรับเยี่ยมผู้ป่วย เพื่อทำให้คนป่วยรู้สึกสดชื่นรื่นเริงขึ้นนั่นเอง ความรักอย่างถูกต้อง 14 กุมภาพันธ์ มีการรับเอาวัฒนธรรมวาเลนไทน์ มาสร้างพฤติกรรมสังคมเมืองไทยของเรา พฤติกรรมที่แสดงในวันวาเลนไทน์ โดยสรุปมี 6 ประการ คือ ''ให้ดอกกุหลาบ สารภาพความรัก ชักชวนกันไปเที่ยว เกี้ยวพาราสี มีเพศสัมพันธ์ พากันจดทะเบียนสมรส'' 1. ให้ดอกกุหลาบ การให้ดอกกุหลาบทั้งสด แห้ง หรือ รูป นั้น จะมีสักกี่คนที่แสดงความรู้สึกในใจ อย่างบริสุทธิ์ใจ เจ้าดอกกุหลาบนั้นมีหนามอยู่ที่ก้าน ก็คือความฉ้อฉลของผู้ให้ และผู้รับก็ไม่มีโอกาสรู้เลยว่า ผู้ให้นั้นมันให้กี่คน มันฉ้อฉลอะไรบ้าง พึงระวังหนามกุหลาบจะตำมือจนเลือดไหล น้ำตาไหล 2. สารภาพรัก นอกจากให้ดอกกุหลาบแล้ว ยังมีการสารภาพรัก คำพูดนั้นส่วนใหญ่ได้ถูกวางแผนมาแล้วเป็นปีๆ ด้วยจิตใจที่มุ่งหวังกามารมณ์ เพศสัมพันธ์ 3. ชักชวนกันไปเที่ยว เมื่อให้ดอกกุหลาบ สารภาพรัก ก็ชวนกันไปเที่ยวตามเธค-คลับ-ผับ-บาร์-ร้านอาหาร-สถานเริงรมย์ เพื่อให้บรรยากาศของคนอื่นๆ ย้อมดำจิตใจของหญิงชายผู้ที่พาไปเที่ยว 4. เกี้ยวพาราสี เมื่อเข้าไปอยู่ในสถานเริงรมย์แล้ว ก็เกี้ยวพาราสี เพื่อให้ยินยอมที่จะจูบกอด และเมื่อเห็นคู่อื่นจูบกอดกัน พฤติกรรมก็ย้อมดำจิตใจให้ยินยอมสมยอม ถ้าพูดด้วยวาจาไม่ยอม ก็มอมด้วยยาบ้า ยาอี คือไม่ได้ด้วยวาจา ก็ด้วยยาย้อมใจ 5. มีเพศสัมพันธ์ และแล้วก็ชวนกันไปมีเพศสัมพันธ์ เสียตัวเสียอนาคตกันในวันที่ 14 กุมภา ฯ และแล้วก็มีปัญหาตามมาเพราะ ตัณหาหน้าด้าน ตัณหาหน้ามืด ทั้งๆ ที่เงินก็พ่อแม่ 6. พากันจดทะเบียนสมรส ในบางคู่ตกลงกันแต่งงาน จดทะเบียนสมรสตามอำเภอ หรือเขตชื่อดีๆ เช่น บางซื่อ บางรัก ยกเว้น บางพลัด บางซ่อน ในกรณีนี้ก็ดีกว่ากรณีอื่นๆ ''วาเลนไทน์ใครบ้าคลั่ง เสียทั้งตังค์เสียทั้งตัว ผู้ใดหลงเมามัว ไปหมกมั่วหมดความขลัง เด็กไทยผู้ประมาท ทำให้ชาติหมดพลัง ชีวินจะกินท์พัง เพราะไม่ยั้งสติเอย ฯ '' (พระพิพิธธรรมสุนทร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม การแสดงความรักในวันวาเลนไทน์นี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงความรักกันแบบคู่รักแต่เพียงอย่างเดียว ยังมีการแสดงความรักให้กันอีกหลายอย่าง เช่น แสดงความรักกับพ่อแม่ พี่น้อง การแสดงความรักกับเพื่อน ความรักต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญคือความรักต่อสังคมและประเทศชาติ สิ่งที่ควรกระทำในวันนี้ สิ่งที่ควรกระทำมากที่สุดก็คือ การสำนึกถึงพระคุณของบิดามารดา ครู อาจารย์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน การมีน้ำใจ มีความเมตตาต่อผู้อื่น และควรที่จะแสดงความรักต่อสังคมและประเทศชาติด้วยการ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ทำลายประเทศ เช่น ยาเสพติด คอรัปชั่น อบายมุขทั้งปวง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ กับชาวราชภัฏ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535 เป็นวันที่ สำนักราชเลขาธิการมีหนังสือที่ รล.0003/2522 แจ้งให้ชาว ราชภัฏทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานชื่อ สถาบันราชภัฏ แทนชื่อ วิทยาลัยครู พวกเราชาวราชภัฏ จึงถือว่าเป็น วันราชภัฏ ดังนั้นขอให้ชาวราชภัฏทุกคน จงรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการกระทำดี ละเว้นความชั่ว เพื่อเป็นการเดินตามพระยุคลบาท ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.love-stories.com http://www.thai-sti.org/articles/valen.htm |
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ |
|
โดย: งาน: งานห้องสมุด อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: http://www.rikc.ac.th/scoop/valentine.html |
| Vote | |
| เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
| เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
| เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
| เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
| มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
 |
 |
