[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

วัดในจังหวัดฉะเชิงเทรา

                                                                                             วัดโสธรวรารามวรวิหาร 

อยู่ในเขตเทศบาลเมือง ริมแม่น้ำบางปะกง เดิมชื่อว่า ''วัดหงส์'' สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเป็นที่ประดิษฐาน ''หลวงพ่อโสธร'' พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง ตามประวัติเล่าว่าได้ปาฏิหาริย์ลอยน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ แต่เดิมเป็นพระพุทธรูปหล่อทองสัมฤทธิ์ปางสมาธิหน้าตักกว้างศอกเศษ รูปทรงสวยงามมาก แต่พระสงฆ์ในวัดเกรงว่าจะมีผู้มาลักพาไปจึงได้เอาปูนพอกเสริมหุ้มองค์เดิมไว้จนมีลักษณะดังที่เห็นในปัจจุบัน ทุกวันนี้จะมีผู้คนมานมัสการปิดทองหลวงพ่อโสธรกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพระอุโบสถหลังเก่าของวัดมีสภาพทรุดโทรม และคับแคบ ทางคณะกรรมการวัดจึงมีมติให้รื้อพระอุโบสถหลังเก่าและสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ โดยอัญเชิญพระพุทธโสธรองค์จำลองไปประดิษฐานไว้ ณ อาคารชั่วคราว เพื่อเปิดให้ประชาชนได้มานมัสการตามปกติ ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2530 โดยมีสำนักงานโยธาจังหวัดเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง ลักษณะพระอุโบสถหลังใหม่เป็นแบบรัตนโกสินทร์ประยุกต์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ เวลาเปิดให้เข้านมัสการ วันธรรมดา 07.00 น.-16.15 น วันหยุด 07.00 น.-17.00 น. 
บริเวณวัดโสธรฯ มีบริการร้านค้าจำหน่ายอาหารและสินค้าของที่ระลึกจากจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนั้นบริเวณท่าน้ำของวัด มีบริการเรือหางยาวรับส่งผู้โดยสารระหว่างตลาดในตัวเมือง และวัดโสธรฯ และเรือบริการท่องเที่ยวลำน้ำบางปะกง 

                                                                                  วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่)

เป็นวัดจีนในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ที่ขยายมาจากวัดเล่งเน่ยยี่ในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจตำบลท่าใหม่ ห่างจากศาลากลางจังหวัด 1 กม. สิ่งที่น่าสนใจในวัดได้แก่ รูปปั้นขนาดใหญ่ของจตุโลกบาล และเทวรูปจีนอ้วยโห้ซึ่งแต่งกายชุดนักรบ นอกจากนี้มีวิหารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่นวิหารบูรพาจารย์ วิหารเจ้าแม่กวนอิม วิหารว่องอ้วนตี่ วิหารตี่ซังอ๋อง และสระนทีสวรรค์ เป็นต้น 

                                                                                    วัดเมือง (วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์)

อยู่ตำบลหน้าเมือง เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 พร้อมๆ กับการสร้างป้อมและกำแพงเมืองในปี พ.ศ. 2377 โดยช่างฝีมือจากเมืองหลวง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมใกล้เคียงกับพระปรางค์วัด พระศรีรัตนศาสดารามที่กรุงเทพมหานคร ต่างกันเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น วัดนี้เดิมเรียกว่า วัดเมืองต่อมาในปี พ.ศ. 2451 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสจังหวัดฉะเชิงเทราและได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า ''วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์'' แปลว่าวัดที่ลุงของพระเจ้าแผ่นดินทรงสร้าง

                                                                               สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฉะเชิงเทรา 

ตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัด มีเนื้อที่ประมาณ 90 ไร่ เป็นสวนสาธารณะ มีสระน้ำขนาดใหญ่ กลางสวนมีทางเดินรอบสรขนาดใหญ่ มีต้นไม้ตลอดริมบึง เหมาะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจได้อย่างดี 

                                                                                       วัดอุภัยภาติการาม (วัดซำปอกง) 
ตั้งอยู่บนถนนศุภกิจ ใกล้กับบริเวณตลาดบ้านใหม่ เป็นวัดญวนในลัทธิมหายาน ภายในวัดมีวิหารลักษณะเหมือนศาลเจ้า เดิมเป็นวัดจีนแต่ปัจจุบันแปรสภาพเป็นวัดญวนไปแล้ว เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต (พระไตรรัตนนายก) หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ''เจ้าพ่อซำปอกง'' ในประเทศไทยมีเพียง 3 องค์เท่านั้น คือที่วัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนบุรี วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและวัดอุภัยภาติการาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน มานมัสการอยู่เป็นประจำ 

                                                                                               ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

เป็นศาลที่สร้างขึ้นใหม่ ภายในศาลมีเสาหลักเมือง 2 เสา เสาหนึ่งเป็นเสาหลักเมืองปัจจบันสร้างเมื่อ พ.ศ.2438 อีกเสาเป็นเสาเก่าสร้างเมื่อ พ.ศ.2377 ยกเลิกเมื่อ พ.ศ.2438 และยังศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอยู่ในบริเวณเดียวกัน

                                                                                             ป้อมเมืองฉะเชิงเทรา

อยู่ที่ถนนสุขเกษม สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อป้องกันข้าศึกศัตรูมารุกราน และในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ใช้เป็นที่ตั้งมั่นกองทัพในการปราบกบฎอั้งยี่ (พ่อค้าฝิ่นเถื่อนชาวจีนที่ก่อความวุ่นวายปล้นสะดมชาวเมือง) บริเวณหน้าป้อมจัดเป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจและชมทิวทัศน์แม่น้ำบางปะกง และมีปืนใหญ่ตั้งอยู่ตามกำแพงเรือ

                                                                                            ลำน้ำบางปะกง 

ลำน้ำบางปะกงมีต้นกำเนิดจากทิวเขาสันกำแพงบนที่ราบสูงโคราช ไหลผ่านจังหวัดปราจีนบุรี (เรียกว่าแม่น้ำปราจีนบุรี) อำเภอบางน้ำเปรี้ยว (เรียกว่าแม่น้ำแปดริ้ว) อำเภอบางคล้า อำเภอเมืองฉะเชิงเทราและออกสู่อ่าวไทยที่อำเภอบางปะกง ระยะทาง 230 กม. การท่องเที่ยวทางเรือในลำน้ำบางปะกง เริ่มจากตัวเมืองฉะเชิงเทราเพื่อชมธรรมชาติ สองฝั่งน้ำชมบ้านเรือน ซึ่งยังคงสภาพความเป็นอยู่อย่างไทย ผ่านสถานที่น่าสนใจ เช่น อาคารตำหนัก กรมขุนมรุพงษ์ศิริวัฒน์ ป้อมและกำแพงเมืองโบราณอาคารศาลากลางหลังเก่า กลุ่มเรือนแพสมัยเก่า วัดวาอาราม ทั้งไทย จีน ฝรั่ง เช่น วัดเมือง วัดสัมปทาน วัดแหลมใต้ วัดสายชล วัดเซ็นต์ปอล ไปขึ้นฝั่งที่วัดโพธิ์บางคล้า เพื่อชมค้างคาวแม่ไก่ที่วัดนี้ ระยะทางประมาณ 25 กม. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง สามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่ท่าน้ำวัดโสธรวราราม วรวิหาร หรือที่ท่าน้ำหน้าตลาดในตัวเมือง มีทั้งเรือหางยาวจุคนได้ 8-10 คน เรือสำราญจุคนได้ 40 คน อัตราค่าเช่าเรือตามแต่จะตกลงกันตามจำนวนผู้โดยสารและระยะทาง (ประมาณชั่วโมงละ 1,200 บาท) ติดต่อเรือท่องธารา จสอ.ศักดา ทองประสิทธิ์ โทร. 01-353-4207 จะได้ชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำ ส่วนใหญ่เป็นสวนผักและสวนผลไม้ เช่น สวนมะม่วง สวนมะพร้าว มีตลาดเล็กๆ ริมแม่น้ำ เช่น ตลาดบ้านใหม่ และตลาดบ้านหมู่ ที่ยังมีสภาพความเป็นอยู่อย่างไทย บ้านเรือนทั้งแบบสมัยใหม่และสมัยโบราณ รวมทั้งวัดต่างๆ 





คลิกเพื่อดูรายละเอียด


โดย:
งาน: งานห้องสมุด
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: http://www.thai-tour.com/thai-tour/Central/Chacheongsao/data/place/city.htm

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 0

อ่าน 0 ครั้ง