[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

คอลัมน์บทนำมติชน ''เห็นแก่อนาคต''

ตำแหน่งรัฐมนตรีที่ถูกปรับครั้งล่าสุด ซึ่งถูกจับตาด้วยความประหลาดใจ และกล่าวขวัญวิจารณ์กันมาก คือกระทรวงศึกษาธิการ ที่เป็นกระทรวงหลักในความเห็นของประชาชน แต่เป็นกระทรวงรองในสายตานักเล่นการเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นทุกครั้งที่เคยจัดสรรปันเก้าอี้กันมา ก่อนที่พรรคชาติไทยจะพบว่าเป็นขุมทรัพย์ และพรรคความหวังใหม่พยายามแสวงประโยชน์ได้ การมาของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ที่เหนือความคาดหมายจึงยิ่งถูกติดตามเข้ม 

แต่ครั้นนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาชี้แจงความคิดต่อสาธารณะว่า ความก้าวหน้าในการปฏิรูปการศึกษา หรือกระบวนการศึกษาของเราที่ยังเห็นไม่ขยับนั้น ต้องการการจัดการ และรัฐมนตรีคนใหม่มีความสามารถพอจะจัดการได้นั้น ทำให้ผู้สนใจการศึกษาของชาติ และประชาชนทั่วไปเข้าใจความคิดในการปรับเปลี่ยนตัวบุคคล กระนั้นสิ่งที่ทุกคนต้องการจะเห็น ย่อมหมายถึงรูปธรรมชัดเจนที่จะเกิดขึ้นตามมา ว่ารัฐมนตรีใหม่สามารถจัดการปัญหาที่มีอยู่ได้อย่างที่คิดหรือไม่ 

วันแรกที่รัฐมนตรีฯศึกษาฯเข้ารับตำแหน่ง และประกาศนโยบายการทำงานที่ชัดเจนหลายประการ เช่น รื้อวิธีดำเนินงานโครงการ ''เอดูเคชั่น เน็ต'' มูลค่าหมื่นล้านบาท เพื่อให้เด็กนักเรียนเข้าถึงไอทีได้รวดเร็วขึ้น, ปรับหลักสูตรวิธีเรียนวิธีสอน เพื่อการเรียนรู้ที่ไม่เกิดความเครียด, ปรับแนวให้เงินอุดหนุนการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี แยกเด็กรวยเด็กจน แยกโรงเรียนพร้อมโรงเรียนขาดแคลน ฯลฯ ดูจะเป็นแนวที่ลงถึงรายละเอียดอย่างเห็นภาพ และน่าจะขับเคลื่อนได้อย่างที่ทุกฝ่ายต้องการ

การสามารถต่อเรื่องจากบรรดาผู้บริหารระดับสูง ของทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) สามหน่วยงานสำคัญ เพียงวันที่สองของการทำงาน ด้วยการวางทิศทางปฏิรูปอย่างชนิดติดตามผลได้ ไม่ว่าการลดเวลาเรียนเด็กเล็กเพิ่มกีฬาและดนตรีเข้าไปจริงจัง หรือให้นักเรียนอาชีวะประกอบวิชาชีพไปพร้อมกับที่ศึกษา ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นนโยบายแบบปฏิบัติการอย่างชัดเจนทีเดียว 

จากที่เห็นเพียงเล็กน้อยนี้ รัฐมนตรีใหม่มิได้รื้อล้างสิ่งที่มีวางไว้อยู่แล้ว หรือหักหาญเรื่องต่างๆ เอาอย่างพิสดารแต่อย่างใด เพียงปรับเปลี่ยนวิธีการบางลักษณะ ให้เกิดการขับเคลื่อน หรือแปลงบางวิธีการเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ต้องการอยู่เดิม ดังนั้น สิ่งที่ควรเกิดขึ้นตามมาก็คือ เมื่อหัวเรือมุ่งไปทางเดียวกันได้ โดยมีนายท้ายคอยช่วย บรรดาฝีพายทั้งหลายก็ควรร่วมมือร่วมใจกันบึ๊ดจ้ำบึ๊ด จ้ำบึ๊ดๆ กันเสียที เพื่อลูกหลานและอนาคตของบ้านเมืองในวันข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อใครที่ไหนเป็นส่วนตัว 

ความคิดประการหนึ่งของรัฐมนตรีใหม่ ที่ให้กระบวนการศึกษาเป็นคำตอบต่อความขาดแคลนในสังคมด้านต่างๆ เป็นความคิดในการผลิตสร้างบุคลากรอย่างชัดเจนที่หลายๆ คนพูดกันมานานนับสิบๆ ปี แต่ไม่เคยปรากฏผล เช่น ความขาดแคลนวิศวกรจำนวนมาก ที่ต้องจ้างจากต่างประเทศ เป็นความคิดและความตั้งใจให้สัมฤทธิผล ซึ่งเป็นตัวอย่างที่น่าจะฝากความหวังได้จากกระทรวงที่ถูกปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีคราวนี้ ว่ากระบวนการศึกษาของชาติจะถูกผลักดันให้เริ่มขยับไปได้เสียที 





ดูรายละเอียดเพิ่มเติม


โดย:
งาน: งานนโยบายและแผน
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: มติชนรายวัน ฉบับที่ 9383 [หน้าที่ 2 ] ประจำวันที่ 17 พฤศจิกายน 2546

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 0

อ่าน 0 ครั้ง