![]() |
|
|
อาจารย์จุฬาฯ จาก 8 คณะ ล่าชื่อยื่นนายกรัฐมนตรี และประธาน สนช. คัดค้านการออกนอกระบบ ระบุจุฬาฯ บริหารไม่คล่องตัวก็ควรจะแก้ไขกฎระเบียบให้มีความคล่องตัว แต่ไม่ควรออกนอกระบบเพราะเป็นสถาบันที่มีเรื่องราวต้องระลึกถึง ที่ดินพระราชทาน และก่อตั้งจากเงินประชาชน
ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวคัดค้านการออกนอกระบบของคณาจารย์ในจุฬาฯ ว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่าน อาจารย์จุฬาจาก 8 คณะ ประกอบด้วย คณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ นิเทศศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อักษรศาสตร์ และครุศาสตร์ จำนวน 8 คน ได้ร่วมกันลงนามในจดหมายคัดค้านการนำจุฬาฯ ออกนอกระบบ และได้ยื่นหนังสือดังกล่าวต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) สำหรับเหตุผลในการคัดค้านนั้น เนื่องจากเห็นว่าปัญหาของการบริหารงานไม่คล่องตัว อยู่ที่กฎระเบียบ ดังนั้น ควรจะแก้ไขกฎระเบียบในการบริหารงานให้คล่องตัวยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องออกนอกระบบ “การพัฒนาจุฬาฯ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะที่ดินก็เป็นพื้นที่พระราชทาน งบประมาณในการก่อตั้งก็มาจากประชาชน และเป็นสถาบันที่มีเรื่องราวที่ควรระลึกถึง ดังนั้น หากจะออกไปบริหารงานในรูปกึ่งเอกชน โดยใช้ชื่อว่ามหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐคงไม่เหมาะสมนัก และเมื่อออกนอกระบบไปแล้วคนที่มาทำงานจะเป็นพนักงานราชการ ซึ่งสวัสดิการต่างๆ ได้ไม่เท่ากับข้าราชการก็คงไม่มีใครอยากจะทำงานอยู่กับจุฬาฯ นาน เป็นการทำให้จุฬาฯ มีโอกาสสูญเสียบุคลากรไปได้มากกว่า”ผศ.นพ.ตุลย์กล่าว ผศ.นพ.ตุลย์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าภายในจุฬาฯ มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยหลายพันคน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการคัดค้านมาโดยตลอดจากผู้ที่ติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้รับความสนใจผู้บริหาร และเมื่อปี 2543 ก็มีการถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งการล่ารายชื่อนั้นกระทำอย่างเร่งด่วนเมื่อวันที่ 4-5 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการนำจุฬาฯ ออกนอกระบบมีจำนวนมากอย่างแน่นอน และอย่างน้อยการได้ส่งจดหมายถึงนายกฯ และประธาน สนช.ก็ทำให้ พ.ร.บ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ผ่าน 3 วาระรวด มีเวลาที่จะคิดแก้ไขเรื่องต่างๆ ได้ ด้าน ดร.ไชยันต์ ไชยพร คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า การดำเนินการเรื่องดังกล่าว ผู้บริหาร หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็ควรจะแจ้งให้ประชาชนได้ทราบล่วงหน้าก่อนว่าจะนำเรื่องนี้มาพิจารณา จะอ้างว่ามีการทำประชาพิจารณ์ไว้แล้วหรือเป็นเรื่องจากรัฐบาลก่อนคงไม่ได้ เพราะการทำประชาพิจารณ์ทำไว้นานแล้ว เมื่อเวลาเปลี่ยนคนก็อาจจะเปลี่ยนใจได้ แลการจะทำประชาพิจารณ์อีกสักครั้งคงไม่เสียหายอะไร |
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
โดย: งาน: งานบุคลากร อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ 8 ธันวาคม 2549 08:16 น. |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
![]() |
![]() |