|
|
|
| นายกรัฐมนตรีกล่าวให้โอวาทเยาวชนดีเด่นที่ทำเนียบรัฐบาล เผยชีวิตในวัยเด็กมีคุณค่า และอยู่ในความทรงจำมาตลอด เตือนอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางเพศก่อนวัยอันควร รวมทั้งแนะนำให้ใช้ชีวิตตามหลักพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะที่ “เยาวชนดีเด่น” วอนผู้ใหญ่หยุดก่อความวุ่นวาย มุ่งสร้างสมานฉันท์ ขอนำคำขวัญเป็นเข็มทิศนำทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (11 ม.ค.) เวลา 10.00 น. กระทรวงศึกษาธิการได้นำเด็กและเยาวชนดีเด่นซึ่งนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 750 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ โดยการเข้าเยี่ยมคารวะครั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ ได้มอบโล่รางวัลและเกียรติบัตรให้กับตัวแทนเด็กและเยาวชนดีเด่นในด้านต่างๆ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศจำนวน 30 คนด้วย ภายหลังการมอบรางวัลน.ส.ธนวรรณ เถามูลหรือน้องฝ้าย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสตรีวิทยา เป็นตัวแทนเยาวชนกล่าวขอบคุณว่า คำขวัญที่นายกฯ มอบให้ปีนี้ คือ “มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข” ถือคำขวัญที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับเยาวชน โดยเยาวชนทั้งหลายจะน้อมรับไปประพฤติปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากที่สุด ซึ่งพวกเราที่เป็นเยาวชนดีเด่นจะตั้งมั่นทำความดีมีคุณธรรมเป็นเข็มทิศชี้นำในการดำเนินชีวิตให้เป็นตามคำขวัญที่นายกฯ มอบให้ นอกจากนี้ยังจะมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อีกทั้งจะธำรงไว้ซึ่งประเพณีวัฒนธรรมไทย รวมทั้งจะใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง “หนูขอฝากถึงผู้ใหญ่ทุกคนว่า ขอช่วยกันทำให้บ้านเมืองของเรามีความสงบสุข รวมทั้งควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กๆ ไม่ว่าเรื่องการทำงานที่ต้องทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ที่สำคัญอยากให้มีความรักใคร่กลมเกลียวกัน ดั่งพระราชดำรัสของในหลวงในเรื่องการรู้รักสามัคคี มีความสมานฉันท์กัน”ตัวแทนเยาวชนดีเด่นกล่าว น.ส.ธนวรรณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังอยากขอให้ทุกคนใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง เพราะภาษาไทยเป็นภาษาที่มีหนึ่งเดียวในโลก เนื่องจากเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยที่บ่งบอกได้ว่าสิ่งนี้คือความเป็นไทย จากนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับเยาวชนว่า ในช่วงวัยเด็กก็เป็นเยาวชนธรรมดาที่บางครั้งก็ตั้งใจเรียน บางครั้งก็ขี้เกียจ แต่สิ่งต่างๆ ที่ผ่านมายังอยู่ในความทรงใจมาโดยตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยิ่งมีเวลาก็มาคิดว่าชีวิตในวัยเด็กมีคุณค่า ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีและไม่ดี ชีวิตในวัยเด็กเป็นวัยที่อยากรู้อยากทดลอง ไม่ใช่สิ่งผิด เป็นสัญชาติญาณที่ต้องการประสบการณ์อยากรู้ทั้งทางที่ดีและไม่ดี ถ้าในทางที่ดีเรียกว่าใฝ่รู้ ใครที่ไม่อยากรู้ ไม่อยากทดลองอะไรเลยก็คงไม่ปกติ เพราะฉะนั้น เยาวชนที่ใฝ่รู้เป็นสิ่งที่ควรส่งเสริมและสนับสนุน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกด้วยว่า ทำอย่างไรที่ตรงไหนควรจะอยู่ และตรงไหนที่ควรพอ บางคนมุทะลุดุดัน บางคนก็สงบเสงี่ยม เป็นข้อคิดที่ดี ที่อยากพูดกับเยาวชนที่ดีเด่นคือในชีวิตเราเริ่มต้นศึกษาจากกลุ่มเพื่อน จากนั้นผู้ที่มีอิทธิพลคือครูอาจารย์ที่เรามีความเชื่อถือ แต่ครูบางคนอาจะไม่ได้เป็นครูตัวอย่าง ไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับเด็กเยาวชน แต่ละในช่วงชีวิตก็จะเป็นจุดสำคัญที่เราจะต้องมาทบทวนพิจารณาแต่ละช่วง ในวัยที่จบมัธยม 6 ก็ถือว่าทุกคนมีความพร้อมที่จะไปเป็นนิสิตนักศึกษา เป็นนักปฏิบัติการในด้านต่างๆ ตัวอย่างคือนักศึกษาช่างฝีมือทหารก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกเรียนทางช่างฝีมือ เท่าที่ทราบผู้ที่จบช่างฝีมือทหารแห่งนี้จะมีงานทำทุกคน ทั้งนี้ สมัยที่ตนจบมัธยม 6 ก็มีทางเลือกจะมาเป็นทหาร หรือเรียนต่อเพื่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยรู้สึก 2 จิต 2 ใจ ระหว่างการเลือกเรียนทางช่างหรือจะเป็นทหาร นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เมื่อเราโตขึ้นก็มีสิ่งที่ทำให้เราเกิดความไขว้เขว โดยสภาพของร่างกาย เป็นหนุ่มสาว มีความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ มีความเรียกร้องที่จะทำให้เราต้องมองเพศตรงข้าม มองคนหล่อ คนสวย ช่วงนี้จะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะทำให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าอย่างถูกต้องในทางที่ถูกที่ควรหรือไม่ ถ้าเราฟังผู้ใหญ่พูดว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางเพศก่อนวัยอันควร เราก็ต้องระลึกถึงความดีงามในแต่ละสังคมที่มีค่านิยมไม่เหมือนกัน ค่านิยมตะวันตกไม่ได้ยึดถือเรื่องความบริสุทธิ์ หรือคุณค่าของความเป็นลูกผู้หญิงที่ดีงาม ส่วนผู้ชายถ้าเรามีความเป็นสุภาพบุรุษให้เกียรติผู้หญิง ไม่ฉวยโอกาสวนลามทางเพศ ซึ่งจุดนี้เพื่อนก็เป็นส่วนที่สำคัญที่จะชักจูงเราไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควร แต่ถ้าตั้งสติ รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตของเรา สำหรับในส่วนของรัฐบาลตระหนักถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งความพอดีเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้เยาวชนได้ยึดแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้ทรงพระราชทานให้คนไทยเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต ซึ่งถ้าเรานำมาใช้ก็จะมีชีวิตที่เรียกว่าอยู่ในวิถีที่เป็นทางสายกลาง ขณะที่คำขวัญวันเด็กที่ระบุว่า “มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข” ซึ่งการมีคุณธรรมสามารถใช้ได้ในทุกศาสนา เพราะทำให้เราเคารพพ่อแม่ ไม่มีความก้าวร้าว และเป็น คนที่มีความอ่อนโยน ส่วนการใช้ชีวิตที่พอเพียงก็คือแนวพระราชดำรัส ขณะที่การหลีกเลี่ยงอบายมุขก็หมายถึงการที่เรามีภูมิคุ้มกัน ไม่เดินไปในทิศทางที่ก่อให้เกิดความเสียหาย |
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
|
โดย: งาน: งานบุคลากร อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ 11 มกราคม 2550 13:38 น. |
| Vote | |
| เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
| เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
| เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
| เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
| มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
 |
 |