[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

ทุ่มเท-สอนสนุก-เข้าใจนร. ''คุณครูในดวงใจ''เด็ก ยุค 2550

หลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยถูกกระแสทุนนิยมถาโถมอย่างหนัก เฉพาะช่วง 5 ปีก่อน แม้แต่วงการศึกษาก็ไม่รอดพ้น ทำให้ครูสอนพิเศษและโรงเรียนกวดวิชาเกิดขึ้นราวดอกเห็ด

พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องควักกระเป๋าให้ลูกเรียนกวดวิชารวมเป็นเงินมหาศาล มีเพียง ''ครู'' เท่านั้นที่มีบทบาทสำคัญในการพลิกฟื้นการศึกษาและสังคมไทยให้กลับคืนสู่สังคม ''คุณธรรมนำความรู้'' เช่นในอดีต ''คม ชัด ลึก'' อาสาสำรวจ ''ครูในดวงใจ'' ของเด็กไทยยุค 2550 เพื่อให้หน่วยที่เกี่ยวข้องนำไปใช้พัฒนาและผลิตครูดีตรงตามที่เด็กต้องการ


''อยากได้ครูที่ทุ่มเท ให้ทุกอย่างกับนักเรียน ไม่มีขีดจำกัดความรู้ ต้องไม่หากินกับเด็ก เช่น เปิดสอนพิเศษ แถมบังคับนักเรียน หากใครไปเรียนจะให้เกรดดี ครูต้องมีคุณธรรม มีความเที่ยงตรงและยุติธรรมต่อเด็ก ไม่ใช่สนิทกับคนไหนก็ให้คนนั้นคะแนนดี อยากได้ครูที่มีจิตใจดี เข้าใจธรรมชาติของเด็ก เอาเกมใส่ในการสอน ทำให้เรียนสนุกสนาน'' คุณสมบัติครูในดวงใจของ ทศพล จันทร์พวง หรือ ''แม็ก'' ชั้น ม.5 ร.ร.ราชนันทาจารย์สามเสนวิทยาลัย 2

นอกจากความรู้แล้ว ''คุณธรรม'' ก็เป็นสิ่งสำคัญ ภาณุวัฒน์ ชัยสถาพร ชั้น ม.5 ร.ร.เซนต์คาเบรียล จึงอยากให้ครูช่วยปลูกฝังเรื่องนี้แก่เด็กๆ เขาขอครูที่มีความรู้ความสามารถ รู้จักสอนเด็กให้เป็นคนดี มีความรู้คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย ไม่ใช่สอนแต่เรื่องของความรู้อย่างเดียว เมื่อเด็กๆ เติบโตขึ้นจะได้เป็นคนดี มีคุณภาพ นำพาประเทศไปสู่ความสงบสุข

ทว่า การสอนให้เด็กๆ มี ''ความรู้คู่คุณธรรม'' จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากเด็กและครูยังมีช่องว่างระหว่างกัน ไม่สามารถสื่อสารและเข้าใจซึ่งกันและกัน ครูในฝันของ พงศ์ไทย เทียนทอง หรือ ''บี'' ชั้น ม.4 ร.ร.เทพศิรินทร์ จึงต้องเป็นมากกว่าครู ให้ความเป็นเพื่อน พี่และครูหลอมรวมในครูคนเดียว ทำให้เด็กรู้สึกวางใจทุกครั้งที่อยู่ด้วย อยากแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ของตัวเองให้ครูฟัง

''อยากให้ครูมีความเป็นกันเอง ไม่ต้องวางตัวว่าเป็นครูอยู่ตลอดเวลา เพราะเด็กในบางครั้งไม่ต้องการและไม่อยากเข้าหา แต่ต้องการความเป็นเพื่อนที่สามารถให้คำแนะนำ คำปรึกษาที่ดี'' พงศ์ไทย ระบุ

สอดรับกับ กานต์สิรี ชิณโชติ หรือ ''พร'' ชั้น ม.6 ร.ร.สตรีวัดมหาพฤฒาราม ขอครูที่เข้าใจ เข้าถึงจิตใจของนักเรียน สามารถคุยได้ทุกเรื่อง บางครั้งอยากให้เป็นเพื่อน เป็นพี่บ้าง ไม่จำเป็นต้องเป็นครูตลอดเวลา เด็กก็อยากเข้าหา มีความรู้อะไรสอนหมด นำเรื่องราวที่น่าสนใจมาเล่าให้ฟัง

ภัสสร ปราชญากูล หรือ ''พลอย'' ชั้น ม.6 ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ก็เช่นกัน เธอมีครูในดวงใจที่ต้องไม่มุ่งสอนความรู้ด้านวิชากรให้นักเรียนเท่านั้น ต้องให้คำปรึกษาแก่นักเรียนได้ทุกเรื่อง

''ครูควรเข้าใจนักเรียน รับฟังปัญหาอย่างห่วงใย และพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างจริงใจ จะทำให้เด็กกล้าเข้าหาครูมากกว่าปัจจุบัน และเมื่อนักเรียนได้รับคำแนะนำอย่างถูกต้อง ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนลดลงได้'' ภัสสร บอกอย่างเชื่อมั่น

อีกเรื่องที่เด็กหลายคนอยากให้ครูทั้งหลายปรับเปลี่ยน ก็คือ ''วิธีการสอน'' อย่างหนุ่มน้อยลูกครึ่ง มาร์ค ลาซิน ชั้น ม.3 ร.ร.ลาซาล ขอครูใจดีและมีเหตุผล เข้าใจธรรมชาตินักเรียน การสอนควรผสมผสานระหว่างความรู้ในตำราและนอกตำรา เพื่อดึงดูดความสนใจของนักเรียนและหลีกเลี่ยงความจำเจ

''บางครั้งความน่าเบื่อ คือ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ไม่สนใจการเรียน ทุกวันนี้หมดยุคคำว่าเหตุผลของครูเป็นใหญ่ ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง อยากให้การเรียน คือ การทำความเข้าใจซึ่งกันและมากกว่า'' มาร์ค บอกถึงความรู้สึก

ไม่ต่างจาก 3 นักเรียนสาวชั้น ม.6 ร.ร.สาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เริ่มจาก พีรภัทรา เชาวลิต เชื่อว่า การสอนแบบใช้เป็นศูนย์กลางนั้นดีอยู่แล้ว แต่ขอให้ครูคอยแนะนำช่วยเหลือ ไม่ใช่ให้เด็กออกไปรายงานหน้าห้องอย่างเดียว

''อยากได้ครูที่มีความเป็นกันเอง รู้จักปรับตัวให้เข้ากับเด็ก มีความจริงใจกับเด็ก ไม่ใช่สอนหนังสือเพราะเป็นหน้าที่ของครู แต่ควรทำความเข้าใจธรรมชาติของเด็กด้วย'' พีรภัทรา ให้ความเห็น

ปรียาพร แสงหงษา ขอครูที่เข้าใจเด็ก สอนสนุก ไม่ต้องเคร่งเครียดกับการสอนมาก แต่ต้องพูดให้ฟังง่าย สอนให้รู้เรื่องและสอนความเข้าใจของครูเหมือนพูดคุยกันแบบเพื่อน ไม่ใช่สอนตามตำราและใช้คำพูดเหมือนผู้ใหญ่สั่งเด็ก

สุดท้าย ทิวาพร ไมตรีปิติ ต้องการครูที่สอนแบบสบายๆ เป็นกันเอง มีรูปแบบการสอนที่สนุกสนาน ไม่เครียดและเข้าใจความเป็นเด็ก ไม่ต้องสั่งงานมาก สอนหนังสือเข้าใจ นำกิจกรรมบันเทิงมาใช้ในการสอน

มาถึง 3 หนุ่มจาก ร.ร.เซนต์คาเบรียล ทั้ง ธนาวุฒิ อภิธนาคุณ ชั้น ม.5 กับรุ่นน้อง ปิติ ว่าสมบุญ ชั้น ม.1 และ จิณณวัตร์ เกริกอาชาชัย ชั้น ม.1 เห็นตรงกันอยากได้ครูใจดี เป็นกันเอง เข้าใจเด็ก สอนสนุก ไม่เครียด และมีกิจกรรมแปลกใหม่ให้เด็กๆ มีส่วนร่วม ไม่ใช่สอนตามหนังสืออย่างเดียว

''ถ้าเด็กไม่เชื่อฟังควรจะเริ่มด้วยการตักเตือน ไม่ใช่มีอะไรก็จะทำโทษเพียงอย่างเดียว ครูน่าจะทำความเข้าใจตรงจุดนี้บ้าง'' ธนาวุฒิ บอกความในใจ

ตรงกันกับความเห็นของ 2 สาวชั้น ม.5 ร.ร.สันติราษฎร์วิทยาลัย ธีราพร กาดนอก หรือ ''ติ๊ก'' ต้องการครูที่ใส่ใจความรู้สึกเด็ก รู้ว่าเด็กแต่ละวัยมีความเหมาะสมกับสิ่งไหน และมีเทคนิคการสอนใหม่ๆ และอุปกรณ์การสอนเพื่อนักเรียนสนใจ สนุกกับการเรียน และครูไม่ควรจะให้ความรู้นอกตำราด้วย เพราะการเรียนเป็นเรื่องที่กว้างกว่านั้น

รพีพรรณ คำภา หรือ ''โอ๋'' ก็เช่นกัน เธออยากได้ครูที่เฮฮา นำมุกตลกมาสอดแทรกในการสอนให้เกิดความสนุกสนาม ไม่ใช่เขียนแต่บนกระดานอย่างเดียว และมีอุปกรณ์การสอนที่น่าสนใจมาใช้สอน

สอดคล้องกับ ชัยยุทธ สุก๋า หรือ ''จ๊อบ'' ชั้น ม.4 ร.ร.ศรีวิกรม์ ที่มีครูในฝันเป็นครูใจดี ขยันเอาสื่อใหม่ๆ มาสอน เมื่อเรียนในห้องเรียนเน้นให้เด็กๆ ได้แสดงออก เช่น รายงานหน้าชั้นเรียน และพาไปทัศนศึกษานอกสถานที่ อยากให้ครูแต่งกายด้วยยูนิฟอร์มของโรงเรียน ทำให้ดูเรียบร้อยและสง่างาม

ตบท้ายด้วย ดวงกมล แสงศรัณย์ ชั้น ม.5 ร.ร.เสละเวชวิทยาน ระบุอยากให้ครูมีความจริงใจกับนักเรียน ไม่คิดถึงเรื่องของคะแนน เพราะคะแนนไม่สามารถที่จะนำมาเป็นตัวชี้วัดความรู้ได้ทั้งหมด แถมทำให้นักเรียนรู้สึกกดดันและท้อแท้ในการเรียน

ทั้งหมดนี้เป็นความในใจเด็กๆ ที่บอกถึง ''คุณครูในดวงใจ'' ของพวกเขาอย่างจริงใจ ขอคุณครูทั้งหลายเมตตาและเอ็นดูลูกศิษย์ ช่วยกันทำความฝันของเด็กๆ ให้กลายเป็นจริง!!





http://db.onec.go.th/thaied_news/index1.php?id=33676


โดย:
งาน: งานบริหารแผนกธุรการ
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: คมชัดลึก ฉบับที่ 1917 [หน้าที่ 12 ] ประจำวันที่ 19 มกราคม 2550

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 0

อ่าน 0 ครั้ง