[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

โรคผิวหนังหน้า..แก้ได้.มาดูวิธีกัน!!!!

                                                                                    ..โรคผิวหนังในหน้าร้อน ..

            เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัวอุณหภูมิบ้านเรายิ่งสูงขึ้นร้อนขึ้นทุกวันๆ นอกจากทำให้หลายๆคนหงุดหงิดหัวใจกับสภาพอากาศร้อนแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวหนังหลายประเภทด้วยกัน ดังนั้นเฮลตี้คลินิกจึงได้รวบรวมโรคผิวหนังที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนมาฝากดังนี้

            กลิ่นตัว
            เป็นปัญหาอันดับต้นๆของคนเรายามเหงื่อออก แต่ละคนก็มีกลิ่นแตกต่างกันไป บางคนกลิ่นแรงชนิดที่เต่าเรียกแม่ จนต้องปิดจมูกกันเลยทีเดียว โดยกลิ่นตัวส่วนใหญ่เกิดจากต่อมเหงื่อชนิดพิเศษชนิดหนึ่งมีมากที่สุดได้แก่ บริเวณรักแร้ จะขับเอาเหงื่อออกมา จากนั้นเชื้อแบคทีเรียจะกินเหงื่อเป็นอาหาร แล้วปล่อยสารที่ซึ่งเป็นกรดชนิดหนึ่งออกมาก็คือกลิ่นตัวนั่นเอง

            กรรมวิธีกำจัดกลิ่นตัว
            ทำได้ง่ายๆเพียงแค่อาบน้ำฟอกสบู่ที่ผสมตัวยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียสูง เช่น สบู่ผสมเฮกซ่าคลอโรฟิน หรือผสมคลอเฮกซิดีน หรือไทรโคลทาแบน แต่ถ้าหากกลิ่นตัวยังไม่จางก็ต้องทายาครีมที่ผสมยา ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียบ้างวันละ 3-4 ครั้ง นอกจากนี้ควรหาทางทำให้เหงื่อออกน้อยลงด้วยการทาสารส้มก็ได้ แต่ถ้าลองหมดทุกวิถีทางแล้วยังดับกลิ่นไม่ได้ อันนี้ก็ต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังแล้วล่ะ

              กลากเกลื้อน
            พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่และเป็นได้ตลอดตัว ปัญหาของโรคกลากเกลื้อนคือ การรักษาโรคแบบไม่ถูกต้อง ทำให้โรคไม่หายหรือไม่หายขาดกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ตลอดจนการเข้าใจผิดของผู้ป่วยคิดว่าตนเองเป็นเชื้อรา จึงซื้อยาเชื้อรามาทา ผลคือโรคเก่าไม่หายโรคใหม่มาแทรก โดยเกลื้อน เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งเกิดกับคนที่มีเหงื่อออกมาก ฉะนั้นจึงมักพบมากในกลุ่มของนักกีฬาและผู้ทำงานในโรงงานหรือผู้ที่ต้องแต่งเครื่องแบบเช่น ทหาร ตำรวจ เกลื้อนมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขนาดเล็กบริเวณขุมขน ซึ่งอาจขยายเป็นวงใหญ่ มีขุยบาง ๆ มักพบเป็นบริเวณหลัง หน้าอก คอ และหน้า โดยเฉพาะบริเวณตีนผม อาจลามลงไปถึงต้นขา เกลื้อนบางชนิดเป็นวงสีชมพูหรือสีน้ำตาล เมื่อเอาเล็บหรือมีดขูดจะมีขุยขาว ขุยขาวนี้เมื่อไปตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์จะพบเชื้อเกลื้อน กลากเกิดจากเชื้อราที่อยู่ตามพื้นดิน กิ่งไม้ ใบไม้ผุและตามขนสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว การติดต่อเกิดจากผิวสัมผัสกับเชื้อที่ปะปนอยู่ตามพื้นดินและตามขนสัตว์ดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อผิวหนังมีบาดแผลหรือรอยขีดข่วน หรืออาจติดต่อโดยตรงโดยการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นหรืออาจใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้ที่เป็น เช่น หวี กรรไกรตัดเล็บ มีดโกนหนวด เพราะเหตุนี้โรคกลากอาจติดต่อได้จากร้านตัดผมชายและร้านเสริมสวยโดยการทำเล็บ ถ้าเครื่องมือเครื่องใช้ในสถานบริการนั้นไม่ได้รับการรักษาความสะอาดเพียงพอ เมื่อมีการติดเชื้อ บริเวณที่พบเป็นบ่อย ได้แก่ บริเวณที่อับชื้น เช่น ขาหนีบ ก้น รักแร้ ง่ามเท้า ซอกนิ้วมือ บริเวณที่พบรองลงไปได้แก่ หน้า ตามตัวทุกแห่ง บริเวณหนังศีรษะ ผมและเล็บ ก็อาจติดเชื้อราหรือเป็นกลากได้

              นอกจากกลากเกลื้อน ยังมีเชื้อราอีกประเภทที่มักชอบแสดงอาการในร่มผ้า โดยเฉพาะในคนอ้วน เจ้าเนื้อ เป็นเบาหวาน หรือเด็กอ่อนที่สวมผ้าอ้อมทำให้เกิดการเปียกชื้นตลอดเวลา เชื้อที่ว่าคือเชื้อราแคนดิดา หรือเชื้อส่า ซึ่งโดยปกติจะพบเชื้อราดังนี้ได้ในคนทั่วไปที่บริเวณช่องปาก ทางเดินอาหาร และระบบสืบพันธุ์ เมื่อมีสภาวะแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการกระจายของเชื้อ เช่น ผู้ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ยาคุม เคมีบำบัด ภาวะโรคต่อมไร้ท่อ การตั้งครรภ์ การหมักหมมเสียดสีในอากาศชื้นแฉะ จึงทำให้เกิดอาการมีลักษณะเป็นปื้นแดงแฉะ มีหนอง น้ำเหลืองหรือสะเก็ดเล็กน้อย มีอาการแสบคัน พบที่บริเวณข้อพับต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ขาหนีบ รักแร้ ราวนม เป็นต้น ลักษณะที่สำคัญของผื่นแคนดิดา คือมีการกระจายเป็นจุด ๆ ออกมาบริเวณรอบ ๆ ผื่นใหญ่เดิมที่มีอยู่

              การวินิจฉัยว่าเป็นกลากหรือเชื้อรา นอกจากผู้ป่วยจะสังเกตเอาจากอาการแสดงดังกล่าว เพราะมีลักษณะค่อนข้างชัดเจน แต่ก็ยังอาจผิดพลาดได้เพราะยังมีโรคผิวหนังอีกหลายชนิดที่มีลักษณะเป็นวง ๆ แดง ๆ และมีขุย ฉะนั้นถ้าจะให้แน่ควรให้แพทย์ตรวจสัก 1 ครั้งเพื่อไม่ให้ผิดพลาด แพทย์ผู้ชำนาญจะบอกได้จากการตรวจลักษณะผื่นที่เป็น

              ส่วนการตรวจพิเศษเพื่อการวินิจฉัยที่แน่นอน แพทย์จะทำการขูดเชื้อไปตรวจและเพาะเชื้อดูว่าเป็นชนิดไหน การขูดเชื้อแพทย์จะใช้ใบมีดขูดเบา ๆ เอาขุยที่หลุดออกมาไปตรวจ ซึ่งไม่มีอาการเจ็บแต่อย่างใด ถ้าเป็นชนิดพุพองใช้วิธีตัดเอาส่วนที่พองไปตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ เมื่อพบเชื้อก็แสดงว่าเป็นเชื้อราแน่ ส่วนการเพาะเชื้อเป็นการบอกละเอียดลงไปอีกว่าเป็นเชื้อราชนิดใด

              ยารักษาเชื้อรามีทั้งยาทาและยารับประทาน ยาทาฆ่าเชื้อรามีหลายชนิดในท้องตลาด ถ้าเลือกใช้ถูกต้องภายใน 2-4 สัปดาห์ผื่นก็จะหาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณและสาเหตุที่เป็น ถ้าเป็นบริเวณไม่กว้าง เช่น ตามหน้าและตามตัว การใช้ยาทาอย่างเดียวก็ได้ผลดี หากเป็นบริเวณกว้างหรือเป็นหลายแห่งบนร่างกายหรือเป็น ๆ หาย ๆ อยู่นาน ไม่หายขาด มีความจำเป็นต้องใช้ยารับประทานร่วมด้วยจึงหายขาด ส่วนระยะเวลาที่กินยาต้องกินจนกว่าผื่นจะหายเป็นปกติ ขึ้นอยู่กับเป็นมากน้อยเพียงใด

              การป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตน เช่น หลีกเลี่ยงการอยู่ในอากาศที่ร้อนอบอ้าว ควรอยู่ในที่เย็นสบายมีอากาศถ่ายเท ไม่สวมเสื้อผ้าที่หนาและคับ ควรใช้ผ้าเนื้อบางและเย็น แบบหลวม ๆ ไม่รัดให้อึดอัด แขนสั้น หลังการทำงานหรือเล่นกีฬาที่ทำให้มีเหงื่อออกมาก ไม่ควรทิ้งให้เหงื่อหมักหมมอยู่นาน ควรรีบอาบน้ำฟอกสบู่ให้สะอาดแล้วเช็ดตัวให้แห้ง เสื้อผ้าซักสะอาดและตากให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อใหม่ทุกวัน หากมีผื่นที่น่าสงสัย ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อการรักษาอย่างถูกต้อง ไม่ควรซื้อยาทาเองหรือหยุดยาก่อนกำหนด เพราะจะทำให้เกิดการเป็นซ้ำ ดื้อยาและแพร่กระจายได้

              สิว
              เรื่องสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือไม่ร้อนบางคนก็เป็นสิวได้ แต่หน้าร้อนโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวมัน อาจเสี่ยงต่อการเกิดสิวได้ง่าย แถมเมื่อหายแล้วมักฝากรอยแผลเป็นไว้เป็นที่ระลึกอีกต่างหาก

            สิวเกิดจากการที่ฮอร์โมนกระตุ้นให้ต้อมไขมันโตขึ้นประกอบกับการอุดตันของต่อมไขมัน และเชื้อแบคทีเรีย P.acnes บนผิวหนังทำให้เกิดการอับเสบ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่มีส่วนทำให้เกิดสิวได้แก่ การใช้เครื่องสำอางบางชนิด เช่นการใช้ออยล์หรือครีมทาผิวผสมตัวยาสตีรอยด์ บางคนอาจแพ้สารเคมีบางชนิดในน้ำมันแต่งผม หรือยาย้อมผม การล้างหน้าบ่อยๆ อาจเกิดการระคายเคืองทำให้เป็นสิวได้ การที่ต้องสัมผัสกับน้ำมัน หรือความร้อน ตลอดจน การรับประทานยาบางประเภท เช่นฮอร์โมนบางชนิด

            สำหรับวิธีการป้งกันสิวมีดังนี้
            1.รักษาความสะอาดโดยล้างหน้าวันละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอเพื่อลดความมันบนใบหน้า เวลาล้างหน้าไม่ควรถูแรงๆ
            2. เลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไขมัน หรือมีส่วนผผสมของสารเคมีที่ทำให้เกิดสิว
            3. ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้า
            4. อย่าใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสใบหน้า
            5. อย่าบีบหรือแกะสิว เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็น
            6. อย่าปล่อยให้ผมมัน สำหรับผู้ที่มีผมมันมีรังแค ควรสระผมบ่อยๆ พร้อมทั้งงดการใช้น้ำมันใส่ผม
            7. หลีกเลี่ยงความเครียด อารมณ์หงุดหงิดและการนอนดึก
            8. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง





รายละเอียด


โดย:
งาน: งานบุคลากร
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: คุณรัชนก อมรรักษากุล จากหนังสือ หมอชาวบ้าน

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 0

อ่าน 0 ครั้ง