|
|
“วิจิตร” เปิดโครงการรณรงค์ให้ผู้มีสิทธิออกมาลงประชาติร่างรัฐธรรมนูญ 50 สั่งทุกโรงเรียนเชิญชวน เผยเด็กเป็นตัวเชื่อมข้อมูลไปยังครอบครัวและคนใกล้ชิดดีที่สุด พร้อมชี้แจงที่มีคนจ่ายเงินให้ชาวบ้านรับ-ไม่รับร่าง คนละประเด็นกัน ไม่เกี่ยวกับการรณรงค์ให้คนออกมาใช้สิทธิ วันนี้ (7 ส.ค.) ที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้เป็นประธานพิธีเปิดโครงการรณรงค์ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุและโทรทัศช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ โดยนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมาธิการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สภาร่างรัฐธรรมนูญ นายสถาพร สันติบุตร รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ทั่วประเทศ ได้พร้อมใจกันมาร่วมพิธีบริเวณหน้าเสาธงเพื่อร่วมพิธีรณรงค์เชิญชวนในการใช้สิทธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ศ.ดร.วิจิตร กล่าวภายหลังรณรงค์ฯ ว่า วันนี้ ศธ.ช่วยรณรงค์เรื่องการลงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบให้ เนื่องจาก ศธ. มีหน่วยงานในสังกัดแต่ละระดับ แต่ละประเภทต่าง กว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ มีนักเรียน นักศึกษา ประมาณ 15 ล้านคน ซึ่งวันนี้ได้ให้สถานศึกษารณรงค์พร้อมกันทั่วประเทศ โดยแบ่งนักเรียน นักศึกษาออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีสิทธิออกเสียงลงประชามติ ประมาณ 2 ล้านคน ที่เหลือเป็นกลุ่มที่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียง ส่วนแนวทางการรณรงค์ ศธ.จะใช้โรงเรียนเป็นฐานโดยจะใช้ช่วงเวลาของการเรียนการสอนตามปกติของนักเรียน หรือช่วงกิจกรรมที่ทำในการสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับสาระความรู้ของ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พร้อมกับให้ความรู้ในการลงประชามติ ยกตัวอย่างวันนี้ได้ให้โรงเรียนทั่วประเทศใช้เวลาระหว่างเคารพธงชาติ มาทำกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจแก่นักเรียนเกี่ยวกับการลงประชามติ ซึ่งจะทำต่อเนื่องไปได้จนถึงวันที่ 18 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ ตนขอให้ทุกโรงเรียนร่วมรณรงค์ เริ่มจากการเรียนการสอนเพราะในหลักสูตรการเรียนการสอนก็มีการสอนในเรื่องประชาธิปไตย หากเราสอนเสริมเข้าไปให้เด็กเกิดความเข้าใจ เข้าถึง ในสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่นี้ และวิธีการลงประชามติที่ถูกต้อง เมื่อเด็กได้รับความรู้ก็จะนำไปถ่ายทอดสู่ผู้ปกครองหรือคนใกล้ชิดได้เหตุผลที่ให้เด็กเป็นตัวเชื่อมในการรณรงค์เพราะสังคมไทยเด็กมีอิทธิพลต่อครอบครัว และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนในครอบครัวต้องพูดคุยกันด้วยว่าจะรับร่างหรือไม่รับร่าง อีกทั้งในอนาคตเด็กรุ่นนี้จะต้องเติบโตแล้วไปใช้สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการรณรงค์ผ่านสถานศึกษาเป็นวิธีที่ดีและได้ผล แม้ครั้งนี้จะไม่สามารถมีสถิติเป็นตัวกำหนดได้ ตามที่ กกต.ตั้งเป้าว่าการออกเสียงจะต้องเกิน 50% สำหรับการเลือกตั้ง แต่เราตั้งเป้าว่าครั้งนี้จะมีประชาชนออกมาลงประชามติจำนวนมาก เมื่อถามถึงกรณีมีข่าวออกมาว่ามีการจ่ายเงินเพื่อให้ประชาชนมาใช้สิทธิออกเสียงลงประชามติรับหรือไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ศ.ดร.วิจิตรกล่าวว่า ถือเป็นคนละเรื่องกับที่ ศธ. ดำเนินการรณรงค์ เพราะเราไม่ได้รณรงค์ให้รับเงินหรือไม่รับเงิน แต่เรารณรงค์เพื่อให้คนออกเสียงลงประชามติได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเชื่อว่าการรณรงค์ให้ความรู้สาระร่าง รธน. และการลงประชามติครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนรู้ว่าการรับเงินเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและผิดกฎหมาย หรือแม้แต่การชี้นำกันก็ถือเป็นความผิดเช่นกัน |
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
โดย: งาน: งานบุคลากร อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ 7 สิงหาคม 2550 14:33 น. |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |