![]() |
|
|
วันหนึ่งหลวงปู่หล้าได้วิสัชนาขึ้นว่า
“อารมณ์วู่วามนั้น หากบุคคลใดรู้ตัวก็ต้องถือว่าเป็นคนมีปัญญาแล้ว และหากถ้ามันเห็นว่าไม่มีประโยชน์มันก็จะวางไปเอง แต่ถ้าหากเห็นว่ามีประโยชน์มันก็วางไม่ได้ อย่างไรก็ตาม มันจะถึงกับฆ่าหรือตีเขาหรือไม่ ข้อนี้ก็เป็นส่วนที่จะต้องรู้อีก ถ้ามันหมายจะฆ่าจะตีเขาก็ส่อแสดงให้เห็นว่ามันยังมีกิเลสมากอยู่ เรื่องนี้เราต้องพิจารณา” “ใครๆ ในโลกนี้ก็เหมือนกัน ถ้าหากเห็นว่าโลภ โกรธ หลง มันเป็นของอร่อยอยู่ มันก็ลดละไม่ได้ มันต้องไปสังเวยเป็นอาหารของกิเลสต่อไป เรื่องความวู่วามโผงผางนี้ พระบรมศาสดากล่าวว่า เป็นตามนิสัยก็มี เพราะบางคนอุปมาเหมือนน้ำใสกลางขุ่นขอบ คือมารยาทไม่งามพูดจาโผงผาง แต่จิตใจเป็นธรรมอยู่ บางคนเหมือนน้ำใสทั้งขอบทั้งกลาง หมายความว่าจิตใจก็เป็นธรรม มารยาทก็เป็นธรรม ส่วนบางคนที่เหมือนน้ำขุ่นทั้งกลางทั้งขอบ ก็หมายความว่าจิตใจก็ไม่เป็นธรรม คำพูดก็ไม่เป็นธรรม” “เรื่องของธรรมะของพระพุทธศาสนา ความจริงแล้วเราควรจะต้องปฏิบัติให้ควบคู่กับอารมณ์ของเราไป ดีกว่าที่จะปล่อยให้อารมณ์ไหวไปทางอื่น” “ยกอุทาหรณ์ คนเราจะสะอาดหรือไม่สะอาดขาดตัวก็ตาม แต่ก็ต้องได้อาบน้ำอยู่นั่นเอง ถ้าไม่อาบน้ำก็ยิ่งไปใหญ่ เข้าสังคมใดๆ ก็ไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าเราไม่ประพฤติศีลประพฤติธรรมแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะมาล้างหัวจิตหัวใจให้สะอาดได้” |
http://www.teenee.com/ |
โดย:
งาน: อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: http://www.teenee.com/ |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
![]() |
![]() |