|
|
การปฐมพยาบาล:ปวดศีรษะ 1. ถ้าปวดหัวรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน, อาเจียนมาก, ตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อน, ปวดร้าว มาที่แขน, มือเท้าชาหรืออ่อนแรง, เดินเซ, หรือก้มคอไม่ลง, หรือปวดถี่และแรงขึ้นทุกวัน, หรือปวดติดต่อกันตลอดเวลาเกิน 2 วัน ต้องไปหาหมอโดยเร็ว. 2. ถ้าไม่มีอาการในข้อ 1 ให้ปฏิบัติดังนี้ 2.1 ใช้ยาหม่องทานวด หรือกดจุด ถ้าไม่หายให้กินยาแก้ปวด ถ้าไม่หายใน 1 สัปดาห์ ควรไปหาหมอ. 2.2 ถ้าปวดเพราะเครียด ให้รักษาแบบกังวล-เครียด 2.3 ถ้าปวดหัวจากลมตะกัง (ไมเกรน) ซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่ จะเป็น ๆ หาย ๆ ในช่วงอายุ 15-55 ปี. มักเริ่มด้วยอาการตาพร่า เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้, แล้วเริ่มปวดตุบๆ ตรงขมับข้างเดียวหรือ 2 ข้าง, ปวดรุนแรงมากขึ้นๆ และนานเป็นชั่วโมงๆ หรือ 1-2 วัน โดยประวัติเป็น ๆ หาย ๆ เป็นประจำ เวลามีสิ่งกระตุ้น. มักเริ่มปวดครั้งแรกเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น หรือ วัยหนุ่มสาว. การรักษาให้ปฏิบัติดังนี้ - ให้กินยาแก้ปวด ทันทีเมื่อเริ่มมีอาการปวด (หากปล่อยให้เป็นนานเกินครึ่งชั่วโมง ยาแก้ปวด อาจใช้ไม่ได้ผล). ถ้าเป็นไปได้ หลังกินยาแล้วควรนอนหลับสักตื่น (ถ้าหลับได้จะหายปวด) หรือนั่งพักในห้องสลัวๆ เงียบๆ และอากาศปลอดโปร่ง หายใจเข้าออกแรงๆ ผ่อนคลายอารมณ์สักครู่ - ควรหาสาเหตุที่กระตุ้นให้ปวด (เช่น ถูกแสงแดด หรือแสงจ้าๆ, ใช้สายตาเพ่งมาก, ได้ยิน เสียงดัง, ได้กลิ่นฉุนๆ, เหนื่อยเกินไป, นอนไม่พอ, หิวจัด, อากาศร้อนไปหนาวไป, ใกล้มีประจำเดือน, อารมณ์ขุ่นมัว, กินยาคุมกำเนิด, เหล้า, เบียร์, ไวน์, ช็อกโกแลต,ถั่วต่างๆ ยานอนหลับ) แล้วหลีกเลี่ยงเสียจะได้ไม่ปวดบ่อย. - ถ้าเป็นบ่อยๆ หรือปวดหัวข้างเดียวที่เพิ่งเป็นในคนอายุมากกว่า 40 ปี ควรไปหาหมอ. - ในกรณีที่เป็นไมเกรนบ่อย ๆ หมออาจใช้ยาช่วยป้องกัน เช่น กินยาอะมิทริปไทลีน ขนาด 10 มก. ก่อนนอนทุกคืน. |
ดูรายละเอียดที่นี้ |
โดย: งาน: งานห้องสมุด อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: http://www.geocities.com/sura23sg/handbook/Index/b_medical/b/43.htm |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |