|
|
บางคนอาจจะบอกว่า คริสตศาสนาเป็นศาสนาที่พระเยซูเจ้าทรงตั้งขึ้น บ้างอาจจะบอกว่าเป็นศาสนาแห่งความรัก คำตอบที่ให้มานี้เป็นคำตอบที่ถูกต้อง แต่พื้นฐานของคริสตศาสนาจริง ๆ แล้วคือศาสนาของการมีประสบการณ์กับพระเจ้า
ถ้าวันหนึ่งคุณเดินไปที่ศูนย์การค้า และมีคนแปลกหน้ามาหา บอกว่า ''จงตามผมมา'' ท่านไม่รู้จักเขา ท่านไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน ท่านจะเดินตามเขาไปหรือ? ทำนองเดียวกัน ศิษย์ 2 คู่แรกของพระเยซูเจ้า (เปโตรและอันดรู ยากอบและยอห์น) มิได้ติดตามพระองค์ทันทีที่พระองค์ทรงเรียกพวกเขาแม้ว่าพระวรสารของนักบุญมารโกจะกล่าวว่า ศิษย์ทั้งสี่ได้ติดตามพระเยซูเจ้าไปทันที ที่เป็นเช่นนี้เพราะพระวรสารของนักบุญมารโกเป็นพระวรสารที่สั้น นักบุญมารโกมิได้ให้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ท่านเพียงแต่ให้ข่าวสารที่สำคัญเท่านั้น เพื่อจะเข้าใจการเป็นศิษย์จริง ๆ เราจะต้องไปศึกษาพระวาสารของนักบุญลูกา ที่ให้รายละเอียดมากกว่า ''วันหนึ่งพระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่บนฝั่งทะเลสาบเยเนซาเรท ขณะที่ประชาชนเบียดเสียดรอบพระองค์เพื่อฟังพระวาจาของพระเจ้า พระองค์ทอดพระเนตรเห็นเรือสองลำจอดอยู่ริมฝั่ง ชาวประมงกำลังซักอวนอยู่นอกเรือ พระองค์จึงเสด็จลงเรือลำหนึ่งซึ่งเป็นของซีโมน ทรงขอให้เขาถอยเรือออกไปจากฝั่งเล็กน้อย แล้วประทับสั่งสอนประชาชนจากเรือนั้น เมื่อตรัสสอนเสร็จแล้ว พระองค์ตรัสแก่ซีโมนว่า ''จงแล่นเรือออกไปในที่ลึกและหย่อนอวนลงจับปลาเถิด'' ซีโมนทูลตอบว่า ''พระอาจารย์ พวกเราทำงานหนักมาทั้งคืนแล้ว จับปลาไม่ได้เลย แต่เมื่อพระองค์สั่ง ข้าพเจ้าก็จะลงอวน'' เมื่อทำดังนี้แล้วพวกเขาจับปลาได้จำนวนมากจนอวนเกือบขาด เขาจึงส่งสัญญาณเรียกเพื่อนในเรืออีกลำหนึ่งให้มาช่วย พวกนั้นก็มา และนำปลาใส่เรือเต็มทั้งสองลำจนเรือเกือบล่ม เมื่อซีโมน เปโตร เห็นดังนี้ จึงกราบลงที่เท้าของพระเยซูเจ้า ทูลว่า ''โปรดไปจากข้าพเจ้าเสียเถิด พระเจ้าข้า เพราะข้าพเจ้าเป็นคนบาป'' เพราะเขาและคนอื่น ๆ ที่อยู่กับเขาต่างประหลาดใจมากที่จับปลาได้มากเช่นนั้น ยากอบและยอห์นบุตรของเศเบดี ซึ่งเป็นผู้ร่วมงานกับซีโมน ก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน พระเยซูจึงตรัสแก่ซีโมนว่า ''อย่ากลัวเลย ตั้งแต่นี้ไปท่านจะเป็นชาวประมงหามนุษย์'' เมื่อพวกเขานำเรือกลับฝั่งแล้วก็ละทิ้งทุกสิ่ง ติดตามพระองค์'' (ลก. 5 : 1-11) เรื่องนี้มีสิ่งที่น่าสังเกตเกี่ยวกับการติดตามพระเยซูเจ้าของศิษย์สี่คนแรก พระเยซูเจ้ามีอาชีพช่างไม้ และเปลี่ยนวิถีชีวิตเป็นนักเทศน์ ในขณะที่ศิษย์ 4 คนแรก มีอาชีพเป็นชาวประมง ยิ่งกว่านั้นศิษย์ทั้งสี่ ได้พยายามจับปลาตลอดทั้งคืน แต่ก็จับไม่ได้ แต่นักเทศน์เยซูบอกให้พวกเขาออกไปสู่น้ำลึก พวกเขาเชื่อฟัง และจับปลาได้มากมาย นั่นหมายความว่านักเทศน์เยซูผู้นี้จะต้องมีอะไรพิเศษในตัว ซึ่งศิษย์ทั้งสี่ได้เรียนรู้ และเกิดประสบการณ์ แน่นอน เราต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนี้เราไม่มีโอกาสสัมผัสกับพระเยซูตัวต่อตัว เราไม่สามารถมีประสบการณ์เหมือนกับบรรดาศิษย์ในสมัยนั้น แต่นี่มิได้หมายความว่าเราจะมีประสบการณ์กับพระองค์ไม่ได้ ในหนังสือ ''พี่น้องคารามาซอฟ'' (The Brothers Karamazov) ของนักประพันธ์ชาวรัสเซีย ดอสโตเยฟสกี้ ได้พูดถึงสตรีชราผู้หนึ่งซึ่งมีสุขภาพอ่อนแอเจ็บไข้ได้ป่วยเสมอ การเจ็บไข้นี้ทำให้เธอท้อแท้หมดกำลังใจในชีวิต และทำให้ความศรัทธาในพระเจ้าของเธอเสื่อมถอยไปด้วย วันหนึ่งเธอได้ไปปรึกษาคุณพ่ออาวุโสชื่อซอสสิมา เธอบอกคุณพ่อเกี่ยวกับความเชื่อที่ลดถอยลงของเธอ และเธอเริ่มเกิดความสงสัยเกี่ยวกับพระเจ้า มีพระเจ้าแห่งความรักจริงหรือ? มีชีวิตหลังความตายหรือ? คุณพ่อซอสสิมาตั้งใจฟังด้วยความห่วงใยและด้วยความสงสาร คุณพ่อกล่าวว่า ''ไม่มีทางที่จะพิสูจน์ได้ว่ามีพระเป็นเจ้าจริง มีชีวิตหลังความตายหรือไม่ แต่เธอสามารถมั่นใจได้ว่า สิ่งเหล่านี้มีแน่'' ''อย่างไร'' เธอถาม คุณพ่อตอบว่า ''ด้วยความรัก พยายามรักเพื่อนบ้านจากใจ ยิ่งเธอรักมากเท่าไร ความเชื่อของเธอจะมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น ความสงสัยจะค่อย ๆ ลดลง นี่เป็นสิ่งที่แน่นอน มีการพิสูจน์และทดลองแล้ว และทำให้ผู้ปฏิบัติมีความเชื่อมั่นคง'' แม้ว่าเราจะไม่สามารถมีประสบการณ์และสัมผัสกับพระเยซูเจ้าเหมือนกับบรรดาศิษย์ที่ได้รู้จักพระองค์ แต่เราก็สามารถมีประสบการณ์ได้ตามที่คุณพ่อซอสสิมาแนะนำ ถ้าท่านไม่เชื่อก็ลองปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้า |
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
โดย: งาน: งานอภิบาล อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: คุณพ่อประเสริฐ โลหะวิริยศิริ |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |