[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

ทำไมเราต้องเรียนรู้เรื่องอีคิว

ทำไมเราต้องเรียนรู้เรื่องอีคิว 


ระหว่างรถยนต์ที่ดี เครื่องแรง แต่เจ้าของไม่มีความสามารถ ไม่รู้จักวิธีการใช้ ไม่สนใจที่จะศึกษาสมรรถนะของรถ กับรถยนต์คุณภาพปานกลาง แต่เจ้าของมีความชำนาญในการขับ รู้ว่าอะไรคือข้อดี ข้อจำกัดของรถ ตลอดจนรู้วิธีซ่อมแซมยามมีปัญหา 
ถ้าให้เลือก เราจะเลือกนั่งรถคันไหน? 
ความแรงของเครื่องยนต์อย่างเดียวเพียงพอหรือไม่ต่อการเดินทางที่ปลอดภัย? 
เราอาจจะไม่สามารถซื้อรถที่ดีที่สุดได้ แต่เราสามารถที่จะเรียนรู้ได้ว่าขับรถอย่างไรจึงจะปลอดภัยจากอุบัติเหตุ หรือขับอย่างไรจึงไม่ผิดกฎจราจร 
ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะขับรถ ควบคุมรถ ไม่รู้กฏจราจร ต่อให้รถดีแค่ไหนก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน จนถึงขั้นรุนแรงได้ทั้งสิ้น 
หากเปรียบความฉลาดทางเชาวน์ปัญญากับรถยนต์ 
ความแลาดทางอารมณ์ก็คือความสามารถในการขับรถยนต์ 
การเรียนรู้เรื่องความฉลาดทางอารมณ์ ก็คือการเรียนรู้ที่จะขับเคลื่อนชีวิตให้ก้าวเดินไปสู่จุดหมายที่ปรารถนาได้อย่างปลอดภัย และมีความรับผิดชอบต่อผู้อื่นที่ใช้ถนนร่วมกัน 
เพราะชีวิตมนุาย์ดำเนินไปภายใต้อิทธิพลของอารมณ์และความรู้สึก ดังคำกล่าวที่ว่า ''จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว'' หรือ ''ทุกข์สุขอยู่ที่ใจ'' 
การกระทำหลายครั้งในชีวิตของเราจึงมีที่มาจากภาวะของอารมณ์มากกว่าเรื่องเหตุผลเพียงอย่างเดียว 
เพราะโดยแท้จริงแล้ว ไม่ว่าในเหตุการณ์ดีหรือร้ายความฉลาดทางเชาวน์ปัญญาจะไม่มีความหมายเลย หากปราศจากความฉลาดทางอารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมด้วย 
อารมณ์ หรือ emotion มาจากคำในภาษาละตินว่า motere แปลว่า เคลื่อนไหว เมื่อเติม e นำหน้า จึงหมายถึง ''เคลื่อนไหวจาก'' แสดงถึงคุณสมบัติของอารมณ์ที่มีส่วนร่วมในการกระตุ้นให้เกิดการกระทำต่าง ๆ อยู่เสมอ 
อารมณ์มีหน้าที่เตรียมสภาพร่างกายให้มีปฏิกิริยาโต้ตอบในลักษณะต่าง ๆ เช่น เมื่อโกรธจะมีการไหลเวียนของโลหิตมาที่มือทำให้ง่ายต่อการหยิบจับอาวุธ หรือต่อยคู่ต่อสู้ และมีการหลั่งสารแอดรีนาลีนที่นำไปสู่การมีพละกำลังที่แข็งแรงพอที่จะทำการใด ๆ ที่ต้องมีการต่อสู้อย่างรุนแรง 
ขณะที่เมื่อคนเรามีความสุข อารมณ์สุขก็จะไปเพิ่มการทำงานของศูนย์กลางในสมองสกัดกั้นความรู้สึกทางลบไม่ให้เกิดขึ้นและเพิ่มพลังการกำจัดความคิดวิตกกังวลให้หมดไป ทำให้เรารู้สึกสงบและเกิดความพึงพอใจ เป็นผลให้ร่างกายฟื้นจากสิ่งกระตุ้นทางร่างกายได้เร็วกว่าเมื่อมีอารมณ์โกรธ 
คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงหรือมีทักษะทางอารมณ์ที่ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดี จะเป็นคนที่สามารถรับรู้ เข้าใจและจัดการกับความรู้สึกของตนเองได้ดี รวมทั้งเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น จึงมักประสบความสำเร็จ มีความพึงพอใจในชีวิต สามารถสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ ออกมาได้เสมอตรงกันข้ามกับคนที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ มักจะเต็มไปด้วยความขัดแย้งภายในจิตใจ พลอยทำให้ขาดสมาธิในการทำงานและมีความคิดที่หมกมุ่น กังวล ไม่ปลอดโปร่ง 
ปัจจุบัน นักวิจัยต่างยืนยันว่า เชาวน์ปัญญามีส่วนเกี่ยวข้องต่อความสำเร็จในชีวิตเช่น การเรียน หรือการทำงานเพียง ๒๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เหลือเป็นปัจจัยด้านอื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งความฉลาดทางอารมณ์ 
การเรียนรู้เรื่องความฉลาดทางอารมณ์ จึงเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาชีวิตให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์และมีความสุข 





ข้อมูลจากเวบนี้


โดย:
งาน: งานนโยบายและแผน
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 0

อ่าน 0 ครั้ง