นางพรนิภา ลิมปพยอม ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เนื่องจากกองทุนสงเคราะห์ครูใหญ่และครูโรงเรียนเอกชนได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ดอกผลของกองทุนลดลง ไม่สามารถจัดสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลให้กับสมาชิกได้อย่างเพียงพอ ทางสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จึงจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอให้ครูและบุคคลในครอบครัวเข้าโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 วันที่ 20 พ.ย.นี้ จะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวแต่หากทางกองทุนฯไม่สามารถรับครูโรงเรียนเอกชนและบุคคลในครอบครัวเข้าร่วมกองทุนได้ก็จะขออนุมัติวงเงินช่วยเหลือปีละประมาณ 400 ล้านบาทแทน นอกจากนี้ยังจะเสนอขออนุมัติเงินช่วยสวัสดิการค่าการศึกษาบุตรปีละประมาณ 100 ล้านบาทด้วย อย่างไรก็ตามทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่สามารถให้ครูและบุคคลในครอบครัวเข้าโครงการได้ เพราะครูได้รับสวัสดิการจากงบประมาณของรัฐอยู่แล้ว เว้นแต่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะออกพระราชกฤษฎีกา เพื่อกำหนดให้ครูและบุคคลในครอบครัวสามารถรับสิทธิบริการสาธารณสุข ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้
''หลังจากที่กฤษฎีกาตีความดังกล่าวแล้ว สธ.ได้เชิญสมาคมโรงเรียนเอกชนต่างๆมาหารือร่วมกับผู้แทนกฤษฎีกา และเห็นว่าควรให้ครูโรงเรียนเอกชน มาตรา 15 (2) ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนหลักสูตรระยะสั้น และครอบครัว สามารถใช้สิทธิได้ เพราะครูเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในกองทุนสงเคราะห์ใด ๆ รวมถึงให้มีการแก้ไข พ.ร.บ. และ กฎหมายที่เกี่ยวข้องในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิในการรับสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ด้วย '' ปลัดศธ.กล่าว.
|
