[ Home ]  [ Today 's Event ]  [ FAQ ]  [ บันทึกงาน ]
User: Passwd:
ค้นหาข้อมูล:

พระราชทานคืนพรบ.ครู รัฐบาลส่งให้พิจารณาวันนี้ออกตัวผิดพลาดเทคนิค


ในหลวงไม่ทรงลงพระปรมาภิไธยร่าง พ.ร.บ.ครู พระราชทานคืนรัฐบาล ''ทักษิณ'' ประชุม ครม.เครียดถกหาทางออก ได้ข้อสรุปบรรจุสภาใหม่ 26 ธ.ค.นี้ 


ไทยรักไทยอ้างเป็นความรับผิดชอบของรัฐสภา อย่าโยนความผิดให้รัฐบาลฝ่ายเดียว ระบุเป็นแค่ผิดพลาดทางเทคนิค ไม่ใช่เนื้อหา ''อภิสิทธิ์'' ชี้เป็นการเตือนเสียงข้างมากจะทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้

น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงได้รับรายงานว่า ตามที่กระทรวงศึกษาฯ ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ก่อนลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวทางสำนักพระราชวังส่งกลับมายังกระทรวงศึกษาธิการ โดยไม่มีการลงพระปรมาภิไธย ทั้งนี้ สำนักพระราชวังแจ้งว่า กฎหมายที่เสนอไปมีข้อผิดพลาดในหลายมาตรา แต่ยืนยันว่าเป็นความผิดพลางทางเทคนิคของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และถือว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งหมด คือ ส.ส.รัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา

''ได้รับแจ้งในวันนี้ว่า กฎหมายดังกล่าวมีปัญหาข้อขัดข้องบางประการ ขั้นตอนต่อไปจะต้องเสนอกลับมาใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนสภาผู้แทนฯ วุฒิสภา เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของกระทรวงศึกษาธิการ ทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกัน จะส่งให้วิปรัฐบาลและรัฐสภาพิจารณาโดยด่วน กฎหมายฉบับนี้ท่านอดิศัย (โพธารามิก) ไม่รู้เรื่อง เพราะเสนอก่อนที่ท่านมารับตำแหน่ง กฎหมายฉบับนี้ในชั้นสภามีความเห็นขัดแย้งจน 2 สภาต้องตั้งกรรมาธิการร่วม โดยเฉพาะความเห็นไม่ตรงกันในการเพิ่มเงินเดือนครูแนบท้ายกฎหมาย''

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ ที่เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านนายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย มีสีหน้าตกใจเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับบอกเพียงว่า ''ผมไม่ทราบเรื่อง ยังไม่ได้รับรายงาน'' ทำให้ น.พ.ทศพร ที่ยืนอยู่ด้วย บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเป็นเรื่องของสภา รัฐมนตรีไม่ทราบเรื่อง

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ประชุมกันอย่างเคร่งเครียด หลังสำนักพระราชวังส่งร่างพระราชบัญญัติครูและบุคลากรทางการศึกษากลับมายังรัฐบาล โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หาทางออกโดยให้นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานรัฐสภา บรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของรัฐสภาในวันพุธที่ 26 ธันวาคมนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 94 แห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย ซึ่งระบุว่า ร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญใด พระมหากษัตริย์ไม่เห็นชอบด้วย และพระราชทานคืนมายังรัฐสภา หรือเมื่อพ้น 90 วันแล้วไม่ได้พระราชทานคืนมา รัฐสภาจะต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้นใหม่ ถ้ารัฐสภามีมติยืนยันตามเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของทั้งสองสภาแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนำร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้น ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระมหากษัตริย์มิได้ทรงลงพระปรมาภิไธย พระราชทานคืนมาในสามสิบวัน ให้นายกรัฐมนตรีนำพระราชบัญญัติหรือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้นประกาศในราชกิจจานุเบกษา ใช้บังคับเป็นกฎหมายได้เสมือนหนึ่งว่าพระมหากษัตริย์ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว

แหล่งข่าวจากคณะรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ถ้าที่ประชุมรัฐสภามีมติยืนยันโดยเสียงไม่ถึงสองในสามของสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 700 เสียง ก็ถือว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวต้องตกไป และต้องเริ่มกระบวนการเสนอกฎหมายใหม่ทั้งหมด

มีรายงานว่า การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเห็นว่า สภาไม่ควรยืนยันร่างกฎหมายดังกล่าวกลับไป แต่ให้ตกไปตามมาตรา 94 ตามรัฐธรรมนูญ และให้มีการเสนอกฎหมายนี้เข้ามาใหม่ การที่ร่างกฎหมายดังกล่าวตกไป ทำให้ไม่มีการปรับโครงสร้างเงินเดือนครูด้วย

แหล่งข่าวจากคณะรัฐมนตรียังกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้พระราชอำนาจยับยั้งกฎหมาย 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับทราบตั้งแต่ตอนเช้าในวันเดียวกันว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธยในกฎหมายฉบับนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการดื้อดึงของรัฐบาลที่ไม่ต้องการให้มีบัญชีแนบท้ายเงินเดือน ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาและฝ่ายค้านเห็นว่าควรแนบ

''ตอนตั้งคณะกรรมการร่วมฝ่ายค้านและวุฒิฯ ก็เห็นด้วยที่จะให้แนบ แต่รัฐบาลก็ไม่ยอม เพราะเชื่อเสียงข้างมากของตัวเองว่าจะทำอย่างไรก็ได้ เมื่อนำร่างของ ส.ส.มายืนยันในสภาผู้แทนราษฎร ฝ่ายค้านก็มีการท้วงติงว่ามีข้อผิดพลาดอยู่จำนวนมาก แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ยอม จนมีปัญหาเกิดขึ้น การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานคืนมา ถือว่าเป็นการเตือนรัฐบาลให้กลับมาร่วมพิจารณากับรัฐสภา และเตือนสติให้รัฐบาลรู้ว่า การมีเสียงข้างมากอย่างเดียวจะคิดทำอะไรก็ได้ไม่ได้อีกแล้ว ต้องหันมาร่วมมือกับสภาในการทำงานร่วมกัน'' รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ด้านนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า วิปรัฐบาลจะมีการหารือเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ก่อนการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว และร่างดังกล่าวถือว่าเป็นร่างที่สำคัญ เราคงต้องเชิญวิปฝ่ายค้านและวุฒิสภาเข้าหารือด้วย เพื่อที่จะดูว่าร่างดังกล่าวบกพร่องตรงจุดไหนบ้าง โดยวิธีการปฏิบัติแล้วเราต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 94 แต่โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า ควรนำร่างดังกล่าวกลับมาพิจารณาร่วมกันใหม่ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นคงไม่ใช่ตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าไม่ได้มีการแนบท้ายบัญชีเงินเดือนเข้าไปด้วย แต่อาจเป็นเรื่องที่ว่ามีการพิมพ์ผิด พิมพ์ถูกบ้าง เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะเป็นเรื่องของกระบวนรัฐสภาไปแล้ว หลายฝ่ายก็พิจารณาร่วมกัน

''นอกจากนี้ก็ไม่ใช่เป็นเพราะความมีเสียงข้างมากในสภา จึงทำให้รัฐบาลทำอะไรโดยไม่คิด จนทำให้เกิดการผิดพลาดขึ้นได้ และกฎหมายนี้ก็ต้องผ่านการพิจารณาร่วมกันทั้งสองสภาอยู่แล้ว'' นายวิชิตกล่าว

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าว ตามความเข้าใจคิดว่าเป็นกฎหมายแรกในประวัติศาสตร์ เรื่องนี้ขอร้องว่าทุกฝ่ายอย่าโยนว่าเป็นความผิดของรัฐบาล แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐสภา ทั้งฝ่ายค้าน วุฒิสภา ต้องรับผิดชอบด้วยกันด้วย ขั้นตอนต่อจากนี้ทางรัฐสภาจะต้องหารือเป็นการด่วน ว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับกฎหมายฉบับนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นอย่างนี้กฎหมายฉบับนี้ตกไปก่อน จากนั้นจะต้องแก้ไขให้รอบคอบกว่าเดิม

''เรื่องนี้เป็นข้อขัดข้องทางเทคนิค เพราะมีบางมาตราคลาดเคลื่อน ขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้มีความจริงใจในการพิจารณาเงินเดือนครู มีความจริงใจการปฏิรูปการศึกษา ที่ตกไปไม่ใช่เพราะบัญชีครูแนบท้าย แต่การพิจาณาต้องดูว่าเงินเดือนบัญชีแนบท้ายจะทำอย่างไร ฝ่ายค้านอย่ามาโยนปาบให้เป็นเกมการเมือง ควรมาหารือเพื่อแก้ข้อผิดพลาด'' โฆษกพรรคไทยรักไทยกล่าว

นายปองพล อดิเรกสาร อดีต รมว.ศึกษาธิการ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาฯ เสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภา และกฎหมายดังกล่าวก็ผ่านการพิจารณาของทั้งสองสภาเรียบร้อยแล้ว

''ดังนั้นหากมีข้อผิดพลาดอย่างใด คงไม่ใช่ความผิดของกระทรวงศึกษาธิการ เพราะเรื่องทั้งหมดผ่านการพิจารณาของสภาแล้ว หากผิดพลาดก็ควรแก้ไขตั้งแต่ขั้นตอนของสภา'' อดีต รมว.ศึกษาธิการกล่าว และว่า ตนพ้นจากตำแหน่ง รมว.ศึกษาฯ แล้ว หากจะสอบถามความเห็นควรไปสอบถามความเห็นของนายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาฯ คนใหม่ เพราะขณะนี้มีความสุขกับการเขียนหนังสือ ถือว่าได้อย่าง-เสียอย่าง

นายสามารถ แก้วมีชัย วิปรัฐบาลจากพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า การประชุมวิปวันที่ 26 พฤศจิกายน จะมีการหารือถึงร่าง พ.ร.บ.ครูฯ กับร่าง พ.ร.บ.เหรียญเทิดพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาสครบรอบ 12 สิงหาคม ซึ่งวิปรัฐบาลเพิ่งทราบเรื่อง และวันเดียวกันนี้จะมีการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาข้อแก้ไขอนุสัญญาและความตกลงด้านการปฏิบัติเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างองค์กรดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ และพิธีการว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันขององค์การ ขณะนี้วิปยังไม่ทราบว่ารัฐบาลจะให้นำร่าง พ.ร.บ.ครูฯ พิจารณาด้วยหรือไม่







ดูรายละเอียดเพิ่มเติม


โดย:
งาน: งานนโยบายและแผน
อ้างอิงแผนงาน : -
อ้างอิงโครงการ : -
แหล่งที่มา: ไทยโพสต์ ฉบับที่ 2589 [หน้าที่ 1 ] ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2546

ขอบคุณสำหรับการโวตท์
Vote
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง
เป็นประโยชน์ต่อฉัน
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
มีประโยชน์ต่อทุกคน
บุคลากร 0 บุคคลภายนอก 0

อ่าน 0 ครั้ง