|
|
ผอ.สทศ.ชี้โอเน็ตไม่เหมาะสมสำหรับใช้คัดเลือกเด็กเข้ามหาวิทยาลัย เพราะมีอำนาจในการจำแนกต่ำ เนื่องจากเป็นข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่เด็กเรียนมาแล้ว ส่วนข้อสอบที่ใช้สำหรับคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยต้องมีลักษณะการจำแนกสูง ผู้สอบสามารถทำคะแนนได้ตั้งแต่ 0-100 จี้ ทปอ.ตั้งหน่วยงานกลางทำหน้าที่แอดมิชชันโดยเฉพาะ ระบุควรใช้ผลโอเน็ตคัดเด็กเข้ามหาวิทยาลัยถึงปี 2552 เท่านั้น ส่วนปี 2553 ทปอ.ควรออกข้อสอบเอง ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กล่าวว่า การคัดเลือกนิสิต นักศึกษาเข้าสู่มหาวิทยาลัย โดยระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา หรือแอดมิชชั่น ในช่วงปีการศึกษา 2549-2551 นั้น ถือเป็นระยะเริ่มต้นของระบบแอดมิชชั่น โดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) กำหนดให้ใช้ผลการทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน(โอเน็ต) ซึ่งดำเนินการโดย สทศ.เป็นส่วนประกอบสำคัญในการคัดเลือกระบบแอดมิชชัน แต่ในระยะที่ 2 ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป มหาวิทยาลัยควรพิจารณาถึงความถูกต้องของการนำคะแนนมาใช้ในการคัดเลือกนักศึกษา เพราะโอเน็ตเป็นข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้วัดผลเมื่อนักเรียนเรียนจบหลักสูตรแล้ว ซึ่งผลการทดสอบดังกล่าวจะชี้วัดว่าโรงเรียนแต่ละแห่งจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างไร “ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นข้อสอบที่มีความยากปานกลางและไม่น่าจะมีผู้สอบได้คะแนนศูนย์ เนื่องจากเป็นการสอบสิ่งที่ได้เรียนมาทั้งหมดแล้ว และผู้สอบควรจะได้คะแนนมากๆ ด้วยซ้ำ เพราะจะได้รู้ว่าเด็กได้ความรู้มากน้อยอย่างไร ดังนั้น ข้อสอบโอเน็ตไม่ใช่ข้อสอบเพื่อคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย เพราะมีอำนาจในการจำแนกต่ำ ข้อสอบที่ใช้คัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยควรมีลักษณะการจำแนกสูง คือต้องมีผู้ได้คะแนน 0 และต้องมีผู้ได้คะแนน 100” ผู้อำนวยการ สทศ.กล่าวต่อไปอีกว่า ตนขอเสนอแนะว่าในปี 2553 ในการพิจารณาแอดมิชชันที่สมบูรณ์แบบ ทปอ.ต้องพิจารณาว่าควรใช้คะแนนอะไรในการคัดเลือกคนเข้ามหาวิทยาลัยอย่างเหมาะสม ซึ่งไม่ควรใช้โอเน็ต แต่ควรใช้คะแนนความถนัดที่จะใช้เรียนในมหาวิทยาลัย และคะแนนความถนัดทางวิชาชีพที่สามารถสอบได้หลายครั้ง โดยมหาวิทยาลัยต้องเชิญผู้มีความรู้ความสามารถมาร่วมกันออกข้อสอบ ซึ่ง สทศ.จะดำเนินการเรื่องการวางระบบและประสานงานให้ “มหาวิทยาลัยควรจะตั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับแอดมิชชันโดยเฉพาะ เพื่อให้นักเรียนสมัครตรงที่มหาวิทยาลัย และพิจารณาใบสมัครว่านักเรียนสมัครเข้าคณะใด สาขาใด พร้อมกับแนบผลการเรียนไปกับใบสมัคร เพื่อจะได้พิจารณาว่านักเรียนเรียนอะไร เกรดเท่าไหร่ ใช้ประกอบการตัดสินใจ และมหาวิทยาลัยต้องวางเกณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของสถาบันตนเอง ส่วนคะแนนที่จะใช้ประกอบในการคัดเลือกคนเข้ามหาวิทยาลัย หากจะให้ สทศ.ดำเนินการสอบความถนัด ซึ่งสอบได้ปีละหลายๆ ครั้ง และส่งคะแนนให้มหาวิทยาลัยตามคำขอของผู้สมัครก็พร้อมจะดำเนินการให้ ซึ่งเชื่อว่าระบบนี้เอื้อต่อการคัดเลือกคนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยและไม่เกิดความยุ่งยากกับนักเรียน โดยให้มีหน่วยงานกลางที่จัดตั้งโดย ทปอ.เพื่อดำเนินการให้กับทุกมหาวิทยาลัยตั้งแต่รับสมัคร หรือหากมีความสามารถในการจัดสอบด้วยก็ควรเป็นหน่วยงานกลาง โดยอาจเป็นรูปขององค์กรมหาชนเล็กๆ หรือบริษัท หรือสมาคมก็ได้” |
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
โดย: งาน: งานบุคลากร อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ 13 กุมภาพันธ์ 2550 14:46 น. |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |