|
|
ครม.เห็นชอบอนุมัติงบ 671 ล้านให้นิสิต นักศึกษา หลักสูตร 5 ปี ไปฝึกสอนยังโรงเรียนขาดครู โดยจะมีเงินค่าตอบแทนเกือบ 2 หมื่นบาทต่อเทอม หากเลือกไปสอน 3 จว.ใต้ เพิ่มให้อีก 4.8 พันบาทต่อเทอม แถมเบี้ยเสี่ยงภัย ค่านิเทศครั้งละ 1 พันบาท รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วันนี้ (18 เม.ย.) ครม.มีมติเห็นชอบโครงการครูสหกิจ และอนุมัติงบ 671.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบผูกพัน 3 ปี โดยปี 2551 ใช้งบ 198.1 ล้านบาท และปี 2552-2553 ใช้งบปีละ 236.5 ล้านบาท เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างนิสิต นักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป ซึ่งเรียนในสาขาศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์ ในหลักสูตร 5 ปี เพื่อให้นิสิต นักศึกษาประมาณ 5 พันคนต่อปีเหล่านี้มาฝึกสอนในสถานศึกษาที่ขาดแคลนครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และวิทยาลัยอาชีวศึกษา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มาสอนเพื่อทดแทนอัตราครูเกษียณตั้งแต่ปี 2543-2547 กว่า 51,169 คน ส่วนค่าตอบแทนจะจัดสรรให้นิสิต นักศึกษาที่สมัครใจไปฝึกสอนในโครงการครูสหกิจนั้น นิสิต นักศึกษาที่ไม่ได้รับทุนโครงการผลิตครูจะได้ค่าตอบแทน 19,200 บาทต่อหนึ่งเทอม ส่วนนิสิต นักศึกษาที่ได้รับทุนจะได้ค่าตอบแทน 9,600 บาทต่อหนึ่งเทอม สำหรับนิสิต นักศึกษาที่แจ้งความประสงค์ขอไปฝึกสอนในโรงเรียนพื้นที่เขตพิเศษเฉพาะกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้รับค่าตอบแทนเป็นกรณีพิเศษโดยจะได้เพิ่มอีกคนละ 4,800 บาทต่อเทอม พร้อมมีเบี้ยเสี่ยงภัยอีก 1,000 บาท ถ้าหากไปนิเทศในสถานศึกษาจะได้เบี้ยเลี้ยงครั้งละ 1,000 บาท ถ้าไปนิเทศในโรงเรียนหรือสถานศึกษาที่อยู่ในเขตพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้ค่าตอบแทนเพิ่มอีก 1,000 บาท “จากการสำรวจพบว่านักศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่ได้รับทุนในโครงการผลิตครูฯ ปี 2550 มีประมาณ 2,048 คน ซึ่ง ศธ.จะไม่บังคับให้นิสิต นักศึกษา เหล่านี้มาเข้าโครงการครูสหกิจ จะให้เป็นความสมัครใจของนักศึกษา อย่างไรก็ดี ขณะนี้ได้มอบให้เครือข่ายสภาคณบดีครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย ไปจัดสรร นิสิต นักศึกษา ลงพื้นที่ฝึกสอนโดยจะเน้นให้ไปสอนยังโรงเรียนที่ขาดครูเป็นเวลา 1 ปีโดยเฉพาะสาขาที่ขาดแคลน ซึ่งการให้นิสิต นักศึกษาไปสอนนั้นเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แถมยังเป็นจุดอ่อนอีกเนื่องจากนิสิต นักศึกษา สอนเพียงปีเดียว อาจมีผลให้การเรียนรู้ของเด็กไม่คงที่เพราะจะมีครูเปลี่ยนหน้ามาสอนไปเรื่อยๆ ซึ่งจะขาดความต่อเนื่อง” **อนุมัติงบกลางบริหาร สพท.เฉพาะกิจใต้ รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วันนี้ ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ ศธ.เสนอกรอบการพัฒนาเขตพื้นที่พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ โดยอนุมัติงบกลาง ประจำปี 2550 เป็นกรณีพิเศษเพื่อใช้ในการดำเนินการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 598.72 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ ในส่วนของโครงสร้างการบริหารงานด้านการศึกษาของจังหวัดใต้ ที่ให้ ศธ.เป็นศูนย์ประสานงานในระดับกระทรวง สำหรับในระดับพื้นที่ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) นอกจากนี้ยังให้มีศูนย์ประสานงานในระดับจังหวัด และระดับอำเภอ ซึ่งงบ 598.72 ล้านบาทจะถูกจัดสรรเพื่อไปใช้ดำเนินการ ได้แก่ 1.พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน อย่างเช่น การเทียบโอนวุฒิการศึกษา สื่อการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สถาบันศึกษาปอเนาะ ฯลฯ 2.พัฒนาสถานศึกษาของรัฐ ใช้งบประมาณเพิ่ม 148 ล้านบาท โดยจะจัดตั้งโรงเรียนวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมการเรียนการสอนอิสลามศึกษาในระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา 3.พัฒนาสถานศึกษาเอกชน งบประมาณ 26.68 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงโครงสร้างทางกายภาพของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สนับสนุนสถาบันศึกษาปอเนาะ ดูแลวิชาชีพครูเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ครูเอกชนของสถานศึกษาปอเนาะ รวมถึงอุสตาซ 4.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบ จำนวน 44.6 ล้านบาท โดยเฉพาะใช้เกี่ยวกับการเรียนการสอนภาษาไทย-มลายู การเรียนการสอนในมัสยิด ทักษะอาชีพ เพิ่มศักยภาพด้านประมงที่จังหวัดปัตตานี 5.การพัฒนาอุดมศึกษา งบประมาณ 26.05 ล้านบาท โดยจัดสรรทุนให้แก่นักเรียนเพื่อใช้ศึกษาต่อระดับปริญญาตรีภายในประเทศ พัฒนาวิทยาลัยชุมชน และสุดท้าย จัดสรรเงิน 353.4 ล้านบาท เพื่อการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่บุคคลากรทางด้านการศึกษา ซึ่งจะนำมาใช้ในการดำเนินการสำหรับด้านดูแลรักษาความปลอดภัยให้บุคลากรทางด้านการศึกษา โดยจะติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด สร้างรั้วโรงเรียน เป็นต้น “งบส่วนใหญ่จะเน้นไปด้านดูแลขวัญและกำลังใจให้แก่ครูและบุคลาการทางการศึกษามากที่สุด ซึ่งเดิมเรามีงบดำเนินการเพียง 30-40 ล้านบาทซึ่งไม่เพียงพอ และเพื่อให้ครูรู้สึกอุ่นใจจึงติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดแก่โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่สีแดง ซึ่งจะใช้งบ 20 ล้านบาท อย่างไรก็ดี งบกลางที่จัดสรรมานี้ ศธ.ได้สอบถาม ศอ.บต.ทหาร และครูที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ว่ายังต้องการอะไรบ้างก็ตอบมาในทิศทางเดียวกันว่าขอเงินสนับสนุนด้านความปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษ และ ครม.ก็เห็นชอบด้วย”รมช.ศธ. กล่าวทิ้งท้าย |
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
โดย: งาน: งานบุคลากร อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ 18 เมษายน 2550 16:53 น. |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |