![]() |
|
|
เลขา สพฐ.เตรียมเสนอ 3 แนวทาง แก้ปัญหาเด็กล้นห้อง “ลดนักเรียน สร้างคู่พัฒนา และเพิ่มนักกฎหมาย ผู้ปกครอง พิจารณารับเด็ก” ให้ “วิจิตร” 17 มิถุนานี้
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ตนมีแนวคิด 3 ประเด็นเกี่ยวกับการรับนักเรียนที่จะนำเสนอ ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยแนวประเด็นแรก ตั้งเป้าลดจำนวนนักเรียนเกิน 50 คนต่อห้อง ซึ่งตรงนี้เป็นดัชนีสำคัญชี้ว่าโรงเรียนไหนมีปัญหาเด็กฝาก โดยดูจากจำนวนรับนักเรียนต่อห้อง ในปีการศึกษา 2549 เราพบว่า มีโรงเรียนที่ขยายห้องเรียนเกิน 40 คน สูงถึง 115 โรง มาปีการศึกษา 2550 ลดลงเหลือ 70 โรง และมีโรงเรียนเพียง 1 แห่ง ที่รับเด็ก 55 คนต่อห้อง ด้วยเหตุนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะหาวิธีลดจำนวนจาก 50 คนต่อห้องลงอีก เพื่อแก้ปัญหาเด็กฝาก ส่วนประเด็นที่ 2 โรงเรียนยอดนิยม ซึ่งทุกปีจะมีนักเรียนแห่กันมาสมัครเข้าเรียนจนล้น จึงวางแผนสร้างโรงเรียนคู่พัฒนามารองรับนักเรียนที่ล้น ยกตัวอย่างโรงเรียนสามเสน 2 รองรับนักเรียนของโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ทั้งนี้ จะให้โรงเรียนยอดนิยมจับคู่กับโรงเรียนคู่พัฒนา โดยจะพัฒนาโรงเรียนที่เป็นคู่กับโรงเรียนยอดนิยมตั้งแต่ต้นปีการศึกษา เพื่อให้ผู้ปกครองยอมรับโรงเรียนคู่พัฒนา ไม่ใช่มา ดำเนินการในช่วงที่จะรับเด็ก ถ้าหากทำตรงนี้ประสบความสำเร็จน่าจะช่วยแก้ปัญหาโรงเรียนขยายห้องเรียนเกิน 50 คนได้ สำหรับประเด็นสุดท้าย จะเปิดโอกาสให้โรงเรียนรับเด็กเพิ่มได้ตามดุลพินิจ จำนวน 10% หรือรับเพิ่มได้ประมาณ 5 คนต่อห้อง ซึ่งการพิจารณารับเด็กจะให้อำนาจของคณะกรรมการรับนักเรียนของสถานศึกษาแห่งนั้น แต่ สพฐ.เพิ่มเงื่อนไขว่าคณะกรรมการให้มีนักกฎหมาย 1 คน ผู้แทนผู้ปกครอง 1 คน เข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณารับเด็ก ซึ่งไม่ใช่รับเด็กทุกคน ส่วนเหตุผลที่เพิ่มนักกฎหมาย เพื่ออธิบายข้อโต้แย้งหรือข้อสงสัยที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่รับนักเรียนเพิ่ม เลขา กพฐ.กล่าวว่า การให้คณะกรรมการรับนักเรียนฯพิจารณารับนักเรียนเพิ่มนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะนโยบายรับเด็ก ปี 2550 ก็อนุญาตให้โรงเรียนรับเพิ่มได้ห้องละ 5 คน โดยพิจารณาจาก 3 กรณี คือ เป็นผู้มีอุปการคุณโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เด็กด้อยโอกาสที่สมควรช่วยเหลือ และเด็กจากพื้นที่ 3 จ.ชายแดนใต้ เช่น บางโรงเรียนต้องการรับลูกหลานข้าราชการที่ย้ายมาจากพื้นที่ 3 จ.ชายแดนใต้ หรือบางโรงเรียนมีปัญหาว่าเด็กอาศัยอยู่ในพื้นที่จริง ติดที่ผู้ปกครองไม่ได้เป็นเจ้าบ้าน หรือมีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียน ตนเห็นว่าน่าจะเปิดกว้างให้ คณะกรรมการฯใช้ดุลพินิจรับเด็กได้ เมื่อถามว่า ข้อเสนอเหล่านี้อาจเป็นช่องทางให้มีการเด็กฝาก คุณหญิงกษมา ชี้แจงว่า ตรงนี้คงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการรับนักเรียนฯ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากมีคนต้องการเข้าเรียนจำนวนมาก คณะกรรมการฯคงจะเลือกคนที่ทำประโยชน์ให้กับโรงเรียน “ประเทศทั่วโลกเขาก็ใช้วิธีนี้ในการพิจารณารับเด็ก ซึ่งสิงคโปร์ มาเลเซีย ก็เปิดช่องให้คณะกรรมการใช้ดุลพินิจรับเด็กประมาณ 10% ของยอดรับนักเรียนทั้งหมด และต่างประเทศเปิดกว้างกว่าบ้านเราด้วย” คุณหญิงกษมา ระบุ 3 ประเด็นเป็นการพูดคุยภายในผู้บริหารของ สพฐ.ซึ่ง รมว.ศธ.รับทราบ 2 ประเด็นแรก และวันที่ 17 มิถุนายนนี้ สพฐ.ได้เชิญ รมว.ศธ.มารือร่วมกับผู้บริหาร สพฐ.ผู้อำนวยการโรงเรียนยอดนิยม 362 แห่ง ที่ ร.ร.มิราเคิลแกรนด์ แล้วจะถือโอกาสนำหารือในที่ประชุมในวันดังกล่าว |
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม |
โดย: งาน: งานบุคลากร อ้างอิงแผนงาน : - อ้างอิงโครงการ : - แหล่งที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ 6 มิถุนายน 2550 17:56 น. |
Vote | |
เป็นประโยชน์ต่อผู้โพสต์เอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อฉัน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
มีประโยชน์ต่อทุกคน | ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ |
![]() |
![]() |