คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงมติของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่ให้ใช้ องค์ประกอบการพิจารณาในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิชชั่น ประจำปีการศึกษา 2553 จำนวน 2 องค์ประกอบ คือ 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ม.ปลาย ที่คิดจากค่าเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายหรือจีพีเอเอ็กซ์ และคะแนนสอบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ต รวมกันร้อยละ 50 และ 2. การวัดความถนัดในวิชาชีพ (Aptitude Test) โดยแบ่งเป็นความถนัดทั่วไปและความถนัดเฉพาะสาขาวิชาชีพ รวมกันร้อยละ 50 ว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นในแนวทางเดียวกันกับที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เตรียมการอยู่แล้ว ซึ่งตนได้มอบหมายให้นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ. ตั้งคณะทำงานขึ้น โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมเป็นที่ปรึกษา เพื่อหาแนวทางผสมผสานระหว่างคะแนนเฉลี่ยสะสมรายกลุ่มสาระ (จีพีเอ) กับคะแนนโอเน็ตอย่างไร
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะหารือการนำคะแนนโอเน็ต ร้อยละ 30 ไปใช้ประกอบการพิจารณาจบช่วงชั้นของนักเรียนชั้น ม.6 ซึ่งจะเริ่มต้นในปีการศึกษา 2551 เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตและข้อห่วงใยหลายประเด็น อาทิ ควรนำจีพีเอมารวมกับโอเน็ตแต่ละรายวิชา แทนการนำจีพีเอเอ็กซ์มารวมกับผลคะแนนรวมโอเน็ต และต้องหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรไม่ให้โรงเรียนไปเพิ่มจีพีเอ หรือปล่อยเกรดให้กับนักเรียน เพื่อชดเชยกับคะแนนโอเน็ตของนักเรียนที่อาจไม่ผ่านเกณฑ์ ทั้งนี้หาก ทปอ.จะนำคะแนนนี้ไปใช้คงต้องคุยกันว่าจะเป็นตัวเลขเดียวกันหรือไม่ เพราะเข้าใจว่าอาจมีคนใน ทปอ. อยากผลักดันให้นำคะแนนโอเน็ตเข้ามาถ่วงกับผลการเรียนมากขึ้น ดังนั้นคงต้องขอเวลาหารือให้ชัดเจนก่อน ส่วนที่ ทปอ.เสนอให้ สพฐ.จัดทำหลักสูตรคุณธรรมเพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยนั้น เป็นเรื่องที่ดีมากได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาถึงความเป็นไปได้แล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดเพื่อนำเสนอที่ประชุม กพฐ.ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้. |
